ผู้นำสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะเร่งส่งความช่วยเหลือทางการทหารให้ยูเครนโดยเร็ว หลังยูเครนส่งสัญญาณเตือนว่าอาวุธกำลังจะหมดลงในเวลาไม่กี่เดือน หลัง สภาฯ สหรัฐฯ รับรองร่าง กม.อนุมัติเงินสนับสนุนก้อนใหม่ ล่าสุดรัสเซียยิงหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ในเมืองคาร์คีฟจนพัง
สงครามรัสเซีย-ยูเครนมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น หลัง "ไบเดน" ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมไฟเขียวให้ใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีรัสเซีย ตามคำร้องขอของผู้นำยูเครนตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ด้านสมาชิกรัฐสภารัสเซีย ออกมาตอบโต้ข่าวการไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธของไบเดน โดยระบุว่า ชาติตะวันตกกำลังทำให้ความขัดแย้งยกระดับเพิ่มขึ้น จนอาจส่งผลให้สถานะความเป็นรัฐของยูเครนถึงจุดจบได้
เมื่อวานนี้ (2 ก.ย. 67) เป็นวันเปิดเรียนวันแรกในยูเครน ซึ่งรัสเซียเปิดฉากยิงขีปนาวุธถล่มหลายเมือง จนทำให้เด็ก ๆ ต้องย้ายไปเรียนกันในพื้นที่ใต้ดิน ท่ามกลางความเสียหายตามเมืองใหญ่ . นอกจากนี้ยังมีข้อมูลน่าสนใจจากสถาบันเพื่อการศึกษาสงครามที่ระบุว่า รัสเซียรุกคืบเข้าไปในดินแดนยูเครนได้มากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี ตลอดช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นร่องรอยความเสียหายที่สะพานข้ามแม่น้ำในภูมิภาคคูร์สค์ของรัสเซีย ซึ่งทางการรัสเซียระบุว่าถูกยูเครนโจมตีเสียหาย กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่ายูเครนใช้จรวดของชาติตะวันตก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจรวดไฮมาร์สของสหรัฐฯ ทำลายสะพานดังกล่าว โดยส่งผลให้อาสาสมัครที่กำลังช่วยอพยพพลเรือนเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ขณะที่มีรายงานว่า สะพานแห่งนี้เป็นเส้นทางสำคัญที่รัสเซียใช้ลำเลียงอาวุธ เสบียงและกำลังพลเข้าทำสงครามในยูเครน
ครบ 1 สัปดาห์แล้วหลังยูเครนเปิดปฏิบัติการที่สร้างความประหลาดใจไปทั่ว เมื่อส่งกองกำลังทหารบุกเข้าไปในเมืองชายแดนในฝั่งรัสเซีย จนถึงวันนี้ยูเครนอ้างว่ายืดพื้นที่ในรัสเซียได้แล้วกว่า 1 พันตารางกิโลเมตร แต่ยูเครนยืนยันว่าไม่ได้ต้องการดินแดนของรัสเซีย และปฏิบัติการที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ 6 สิงหาคมนี้ดูจะเป็นการกดดันให้เกิดการเจรจาสันติภาพ หรือเบี่ยงเบนและบั่นทอนกำลังของแนวรบรัสเซียทางด้านตะวันออกของยูเครนมากกว่า
สงครามในยูเครนมาถึงจุดที่สุ่มเสี่ยงอีกครั้ง โดยล่าสุดโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในยูเครน ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซียถูกโจมตีและเกิดไฟไหม้ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างก็กล่าวโทษกันไปมาว่าเป็นฝีมือของอีกฝ่าย ขณะที่กองกำลังของยูเครนรุกคืบเข้าไปในดินแดนของรัสเซียตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่ผู้นำยูเครนเพิ่งจะออกมายืนยันเรื่องนี้เป็นครั้งแรก
ส่วนที่รัสเซียเกิดเหตุโจมตีขึ้นซ้อนหลายจุดทางตอนใต้ของประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 คนและบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในดาเกสถาน ซึ่งเคยเกิดเหตุโจมตีโดยกลุ่มมุสลิมสุดโต่งมาแล้วหลายครั้ง และครั้งนี้สถานที่ที่ตกเป็นเป้าการโจมตีมีทั้งโบสถ์ออร์โธดอกซ์และโบสถ์ยิว
สงครามรัสเซียยูเครนล่าสุด "ปูติน" ขู่พร้อมจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ หากอธิปไตยของรัสเซียถูกรุกราน โดยจากการประเมินพบว่า รัสเซียมีหัวรบนิวเคลียร์มากที่สุดในโลกและอยู่ในสถานะพร้อมใช้งานทันทีประมาณ 1,700 หัวรบ ซึ่งโอกาสที่รัสเซียจะทดสอบอาวุธนิวเคลียร์มีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากเมื่อปีที่แล้วรัสเซียได้ถอนตัวจากสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์
สงครามรัสเซีย-ยูเครนเดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 3 ท่ามกลางการจับตามองถึงความเป็นไปได้ในการเปิดปฏิบัติการรุกรานยูเครนรอบใหม่ โดยที่ผ่านมากองทัพยูเครนพบปัญหาการขาดแคลนกำลังพลและอาวุธ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักทำให้รัสเซียชิงความได้เปรียบในสมรภูมิรบปีที่ 2 ของสงคราม นักวิเคราะห์ตะวันตกมองว่ารัสเซียน่าจะเผด็จศึกให้ได้ภายในปี 2026