นิทรรศการภาพถ่ายบอกเล่าปัญหาการขอสัมปทานเหมืองแร่ถ่านหิน เนื้อที่ 284 ไร่ ที่บ้านกะเบอะดิน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เป็นหนึ่งในกิจกรรม “อมก๋อยแดนมหัศจรรย์ ลมหายใจบนไหล่เขา รอยยิ้มของผืนดิน เสียงหัวเราะของสายน้ำ” บริเวณลานประตูท่าแพ กลางเมืองเชียงใหม่
กิจกรรมนี้ชาวบ้านกะเบอะดิน ร่วมกับ เครือข่ายปกป้องสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม จัดขึ้นเพื่อคัดค้านการขอสัมปทานเหมืองแร่ถ่านหิน ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และ วิถีชีวิต พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA มีข้อพิรุธ หลายอย่าง และ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีส่วนร่วม
ทำให้ 3 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ร่วมกันจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบโดยชุมชน หรือ CHIA เพื่อยื่นฟ้องคดีที่ศาลปกครองในสัปดาห์หน้า
นายสุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า รายงาน CHIA ของกลุ่มชาวบ้าน เป็นการรวบรวมข้อมูลผลกระทบด้านสุขภาพ ด้านสังคม ของชุมชนทั้งหมด ตลอด 3 ปี เพื่อนำไปโต้แย้งกับรายงานผลกระทบของบริษัทที่ได้รับสัมปทานที่เคยยื่นไว้เมื่อกว่าสิบปีก่อน ซึ่งชาวบ้านเห็นว่าไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และไม่ถูกต้องหลายประการ
นายเดชา จึงอุดมชัย ชาวบ้านในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ระบุว่า หากมีการทำเหมืองแร่ขึ้นในพื้นที่ อ.อมก๋อย ก็จะส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ และที่อยู่อาศัยของคนในพื้นที่ ซึ่งจะต้องมีการอพยพออกนอกพื้นที่เข้ามาอยู่ในเมือง และเกิดปัญหาอีกหลายอย่างตามมา
โครงการเหมืองแร่ถ่านหินอมก๋อย มีระยะเวลาในการยื่นขอทำสัมปทาน 10 ปี ปริมาณถ่านหินประมาณ 720,000 ตัน จะนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงงานปูนซีเมนต์แห่งหนึ่ง