วันนี้ (6 เม.ย.2565) สถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.เสาเภา และ ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช หลังเกิดน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงทำให้น้ำท่วมฉับพลัน ล่าสุดระดับน้ำได้ลดลงไปจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทิ้งไว้แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างหนักโดยเฉพาะย่านกิจการเลี้ยงกุ้งทะเลแถบ ต.ทุ่งปรัง ต.เสาเภา บ่อกุ้งที่กำลังได้ขนาดและเตรียมที่จะเปิดบ่อจับส่งขายในช่วงเดือน เม.ย. - พ.ค. มูลค่านับล้านบาทต่อหนึ่งบ่อ ถูกกระแสน้ำพัดเข้าท่วม คันกั้นบ่อแตก กุ้งที่เลี้ยงไว้หายไปกับกระแสน้ำทั้งหมด
เจ้าของและคนงานทำได้เพียงเข้าเก็บกู้อุปกรณ์การเลี้ยง เช่น เครื่องยนต์มอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องตีน้ำ เท่านั้น ส่งผลให้การเลี้ยงกุ้งในฤดูกาลนี้เสียหายอย่างสิ้นเชิง บางคนถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวจากการลงทุนนับล้านบาท
ส่วนสถานการณ์น้ำป่าที่หลากลงมาตลอดแนวเทือกเขาหลวงฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะในพื้นที่ต้นน้ำคีรีวง ต.กำโลน อ.ลานสกา ส่งผลกระทบกับชุมชนริมคูเมืองทางด้านตะวันตกของเมืองนครศรีธรรมราช เช่น ชุมชนนอกคอก ชุมชนราเมศวร์ ชุมชนบ้านตกชุมชนท่าช้าง ชุมชนบ่อทรัพย์ น้ำได้หลากเข้าท่วมหลายจุด แต่ฝนหยุดตกประกอบกับไม่มีน้ำทะเลหนุนทำให้การระบายน้ำไม่มีอุปสรรค
ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงเย็นถึงค่ำของวันนี้ พื้นที่น้ำท่วมขังบางส่วนของ 9 อำเภอ สถานการณ์จะคลี่คลายหากไม่มีฝนตกหนักเพิ่มอีก
สุราษฎร์ธานี แจกจ่ายอาหาร-น้ำดื่มให้ชาวบ้าน
ขณะที่ จ.สุราษฎร์ธานี แม้สถานการณ์น้ำจะลดระดับลงแล้ว แต่ชาวบ้านใน ต.ชลคราม อ.ดอนสัก ยังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เนื่องจากเป็นพื้นที่รองรับน้ำก่อนไหลลงสู่ทะเล ทำให้ถนนเชื่อมระหว่างหมู่บ้านยังมีน้ำท่วมรถเล็กสัญจรได้ยาก
เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้านำน้ำดื่มและอาหารเข้าไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านในพื้นที่และช่วยเหลือในการย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหาย อย่างไรก็ตาม พบว่าฝนเริ่มทิ้งช่วงแล้วหากไม่มีฝนตกซ้ำระดับน้ำคาดว่าจะลดลงอย่างรวดเร็ว
น้ำท่วม 5 จังหวัดภาคใต้ กระทบ 1,607 ครัวเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเวลา 09.00 น. จากอิทธิพลของลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาตใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่งผลให้มีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในห้วงวันที่ 5 - 6 เม.ย.2565
เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง และชุมพร รวม 18 อำเภอ 50 ตำบล 159 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,607 ครัวเรือน โดยในภาพรวมระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้
- จ.นราธิวาส เกิดอุทกภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สุคิริน และ อ.แว้ง รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32 ครัวเรือน
- นครศรีธรรมราช เกิดอุทกภัยในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อ.สิชล อ.ขนอม อ.นบพิตำ อ.เมืองนครศรีธรรมราช อ.พิปูน อ.พรหมคีรี อ.ร่อนพิบูลย์ อ.ปากพนัง อ.ชะอวด อ.จุฬาภรณ์ และ อ.ท่าศาลา รวม 32 ตำบล 113 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,215 ครัวเรือน
- สุราษฎร์ธานี เกิดอุทกภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.กาญจนดิษฐ์ และ อ.ดอนสัก รวม 4 ตำบล 16 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 38 ครัวเรือน
- พัทลุง เกิดอุทกภัยในพื้นที่ อ.ควนขนุน รวม 5 ตำบล 15 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 221 ครัวเรือน
- ชุมพร เกิดอุทกภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.พะโต๊ะ และอ.หลังสวน รวม 7 ตำบล 13 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 101 ครัวเรือน
พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่า
นอกจากนี้ ยังรายงานคาดการณ์และแจ้งเตือนภัย (เวลา 08.00 น.) พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก มีรายละเอียด ดังนี้
- จ.สุราษฎร์ธานี (อ.ท่าชนะ ดอนสัก ไชยา กาญจนดิษฐ์ ท่าฉาง เกาะสมุย วิภาวดี บ้านนาสาร)
- นครศรีธรรมราช (อ.เมืองฯ นบพิตำ ขนอม ลานสกา พรหมคีรี ชะอวด พิปูน ร่อนพิบูลย์ ฉวาง ช้างกลาง จุฬาภรณ์ ทุ่งสง สิชล ท่าศาลา)
- พัทลุง (อ.เขาชัยสน ศรีบรรพต ศรีนครินทร์ ป่าพะยอม ตะโหมด ป่าบอน กงหรา)
- สงขลา (อ.เมืองฯ รัตภูมิ)
- นราธิวาส (อ.จะแนะ รือเสาะ ศรีสาคร)
- ตรัง (อ.ห้วยยอด)
เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง/น้ำท่วมขัง
- จ.ชุมพร (อ.พะโต๊ะ หลังสวน)
- สุราษฎร์ธานี (อ.กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก)
- นครศรีธรรมราช (อ.สิชล ขนอม นบพิตำ เมืองฯ พิปูน พรหมคีรี ร่อนพิบูลย์ ปากพนัง ชะอวด จุฬาภรณ์ ท่าศาลา)
- พัทลุง (อ.ควนขนุน)
- นราธิวาส (อ.สุคิริน แว้ง)
ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังดินถล่ม จ.นครศรีธรรมราช (อ.สิชล ลานสกา นบพิตำ)