เอกชนแจ้งปรับขึ้นค่าขนส่งหากไม่ตรึงดีเซล คาดกระทบราคาสินค้า

วันนี้ (18 เม.ย.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลของรัฐบาลที่จะสิ้นสุดในเดือน เม.ย.นี้ ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลจะปรับตามกลไกตลาด ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2565

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประเมินว่า สถานการณ์สงครามรัสเซียและยูเครนยังน่าเป็นห่วง เพราะมีความรุนแรงและไม่สามารถเจรจาหาข้อยุติได้ ทำให้กระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก แม้ช่วงนี้ราคาน้ำมันจะลดลงมาบ้าง แต่เชื่อว่าความขัดแย้งจะทำให้ราคาน้ำมันไม่ต่ำกว่า 100-110 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรลล์

ขณะนี้ทางรถขนส่งสินค้าเตรียมจะปรับขึ้นค่าส่งร้อยละ 15-20 หากขึ้นจริงจะกระทบราคาสินค้าสูงมากกว่าร้อยละ 5- 10 ในเดือน พ.ค.นี้อย่างแน่นอน ดังนั้นรัฐบาลต้องหามาตรการรับมือปัญหาค่าครองชีพสูงไว้ด้วย

ขณะที่นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ระบุว่า หากวันที่ 1 พ.ค.นี้ รัฐบาลไม่มีมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร ผู้ประกอบการจะไม่เคลื่อนไหวเพิ่มเติม แต่จะปรับขึ้นค่าขนส่งตามต้นทุน โดยราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้น 1 บาทต่อลิตร จะต้องปรับค่าขึ้นส่งขึ้นร้อยละ 3 พร้อมระบุว่าขณะนี้ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6 บาทต่อกิโลเมตร

นายอภิชาติ ระบุอีกว่า หากรัฐบาลจะเดินหน้าการตรึงราคาน้ำมันเพื่อบรรเทาผลกระทบ ก็ยังพอทำได้ โดยเสนอยกเลิกนำน้ำมันชีวภาพ ทั้งไบโอดีเซลและเอทานอลมาผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิง และลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเพิ่มเติม

"พาณิชย์" ตรวจสอบขายสินค้าเกินราคา

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ยังติดตามตรวจสอบราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด และกำชับพาณิชย์จังหวัดตรวจสอบในพื้นที่ เพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เช่น การปิดป้ายแสดงราคา และต้องไม่จำหน่ายเกินป้ายที่ติดไว้ รวมทั้งต้องไม่ฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควร ซึ่งช่วงสงกรานต์นี้ระดับราคาสินค้ายังอยู่ในภาวะปกติ

สินค้าสำคัญ 18 หมวดที่จำเป็นต่อการอุปโภค บริโภค ยังกำกับราคาอยู่และยังไม่มีการอนุญาตให้ขึ้นราคา ยกเว้นบางกรณีที่ต้นทุนสูงขึ้นมาก เช่น ต้นทุนสูงขึ้นเพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครน และราคาน้ำมันที่พุ่งสูง ซึ่งพิจารณาเป็นรายสินค้า เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถดำเนินธุรกิจอยู่ได้ ไม่หยุดผลิตจนกลายเป็นปัญหาซ้ำซ้อน สินค้าขาดตลาด