วันนี้ (26 เม.ย.2565) นายสนธยา คุณปลื้ม อดีตนายกเมืองพัทยา โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว “สนธยา คุณปลื้ม” คอลัมน์คิดดังดัง ในประเด็น “เมืองพัทยา...ไม่หยุดพัฒนาเพื่อไปสู่อนาคต” ระบุว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ถือว่าพัทยามีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก บรรยากาศสุดคึกคัก
หลังจากนี้เชื่อว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวแบบก้าวกระโดด ซึ่งช่วงก่อนโควิด-19 เคยมีนักท่องเที่ยวกว่า 15 ล้านคนต่อปี ดังนั้นพัทยาต้องมีความพร้อมด้านต่าง ๆ รองรับอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง

นายสนธยา ระบุว่า เมืองพัทยาช่วง 2-3 ปี มีโครงการปรับปรุงสภาพแวดล้อมคืบหน้าไปมาก บางโครงการเสร็จแล้ว บางโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการ และบางโครงการ “บริหารจัดการ” จนได้รับงบประมาณ เกิดความเปลี่ยนแปลง “พลิกโฉมหน้า” สะอาด เรียบร้อย และสวยงามกว่าเดิม
ชายหาดกว้างขวาง ทางเดินสะดวก จอดรถสบาย นำสายไฟฟ้าริมถนนลงใต้ดิน การขยายท่อระบายน้ำและสร้างสถานีสูบน้ำ ทำให้พื้นที่ที่เคยน้ำท่วมเวลาฝนตกหนักลดลงไปเกือบหมดและระบายได้รวดเร็ว
การพัฒนาเมืองพัทยา เหมือนปรับปรุงบ้านให้น่าอยู่ วันที่ผู้รับเหมาก่อสร้างขุดเจาะถนน วางท่อระบายน้ำ สายไฟ ประปา สาธารณูปโภคต่าง ๆ ก็อาจมีเสียงดังรบกวนบ้าง หรือต้องปิดการจราจรบางเส้นทาง กระทบความสะดวก ต้องขออภัย

เข้าใจถึงความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยที่เดือดร้อนทุก ๆ คน แต่อยากให้มองถึง ข้อดีของการปรับปรุงพัทยา คือการบริหารจัดการสิ่งที่มีปัญหาได้อย่างเรียบร้อยสวยงาม ทันสมัย อยากให้มองว่า นี่คือการ พัฒนาคุณภาพชีวิต ประชาชนที่ดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
ยกตัวอย่างการพัฒนา ถนนและท่อระบายน้ำ สายวัดสว่างฟ้า- ตลาดใหม่นาเกลือ-ลานโพธิ์ ที่สมัยก่อนมักมีปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้ง เดี๋ยวนี้แทบไม่มีปัญหา หรือ โครงการระบบระบายน้ำฝนถนนพัทยาสาย 2 ตั้งแต่บริเวณแยกขึ้นเขาพระตำหนัก ถนนก็สวยงามน้ำก็ไม่ท่วม และโครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน เช่น บริเวณถนนพัทยากลาง ช่วงขุดเจาะหนักๆ อาจเสียทัศนียภาพและความสะดวกไปบ้าง แต่เมื่อเสร็จสิ้นโครงการแล้ว ก็มีแต่เสียงชื่นชมความสวยงาม

นอกจากนั้น ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และผู้ประกอบการ ยังลงทุนก่อสร้างต่อเนื่อง เช่นโรงแรมขนาดใหญ่ บนถนนนาเกลือ-พัทยา เพราะเกิดความเชื่อมั่นว่า พัทยาตอบโจทย์ก้าวไปสู่เมืองนานาชาติ เมืองแห่งความหวัง เมืองแห่งโอกาส เมืองแห่งอนาคต ทั้งด้านการท่องเที่ยว ศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออก
ผมเชื่อมั่นว่า พัทยาหยุดการพัฒนาเมืองไม่ได้ เพราะกำลังก้าวไปสู่อนาคต ซึ่งไม่ได้แข่งขันกับจังหวัดอื่น ๆ ในประเทศ แต่เป้าหมายต่อไป คือถึงเวลาแข่งขันกับเมืองเศรษฐกิจชายทะเลสำคัญของอาเซียนและมหานครใหญ่ของภูมิภาคนี้