วันนี้ (29 เม.ย.2565) พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม วิเคราะห์การโจมตีกรุงเคียฟรอบที่ 2 ของรัสเซีย ในรายการ Newsroom Daily รายการออนไลน์ของไทยพีบีเอสว่า การโจมตีดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจาก 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียนำกำลังออกจากกรุงเคียฟของยูเครน ส่งผลให้กรุงเคียฟ มีบุคคลสำคัญเดินทางเข้ามาดูสถานการณ์ภายในตลอด โดยคนล่าสุดคือ อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เมื่อกรุงเคียฟกลับมาคึกคัก จึงอาจเป็นเหตุให้รัสเซียส่งสัญญาณเตือน
พล.อ.นิพัทธ์ ระบุว่าวันนี้ชัดเจนแล้วว่าเจตนารมณ์ของกองทัพรัสเซียที่ทำสงครามมาตลอด 2 เดือนกว่า คือประสงค์อยากได้พื้นที่ของยูเครน ต้องการผนวกดินแดน ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ถือว่าบานปลาย ขยายตัว ชาติตะวันตกรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนส่งอาวุธช่วยเหลือยูเครน
หลังจากนี้คำว่าสงครามปืนใหญ่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากจุดรบเป็นพื้นที่เปิด แตกต่างจาก 2 เดือนก่อนที่อยู่ในเมือง อาวุธที่ใช้จำเป็นต้องยิงได้ในระยะไกลและมีความแม่นยำสูง ดังนั้นอาวุธที่ชาติตะวันตกให้ยูเครนมาในขณะนี้ จึงเป็นปืนใหญ่และรถถังที่ยิงได้ในระยะไกล
มีความกังวลว่าอาวุธต่าง ๆ ที่ชาติตะวันตกส่งไปให้ยูเครนจะถึงมือหรือไม่ เพราะฝ่ายรัสเซียได้ปิดล้อมพื้นที่ในหลายจุด พล.อ.นิพัทธ์ ระบุว่าไม่มีใครเปิดเผยเส้นทางขนส่งอาวุธของยูเครนมาก่อน แต่เมื่อไม่นานมานี้ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้กล่าวขอบคุณพนักงานและการรถไฟ ที่ได้พาตนเดินทางเข้าไปในกรุงเคียฟ และเดินทางกลับออกมาอย่างปลอดภัย ดังนั้น รถไฟจึงเป็นช่องทางหนึ่งที่ยูเครนใช้ขนส่งอาวุธกับชาติตะวันตก
สัปดาห์ที่แล้ว รัสเซียเพิ่งถล่มรางรถไฟของยูเครน เพราะคำกล่าวของนายกฯ อังกฤษ
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีการเปิดเผยเส้นทางการขนส่งยุทโธปกรณ์ให้ยูเครน แต่การอยู่ได้ของยูเครนจนถึงขณะนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า ยูเครนได้รับอาวุธจากการช่วยเหลือไม่มากก็น้อย