ผู้นำสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะเร่งส่งความช่วยเหลือทางการทหารให้ยูเครนโดยเร็ว หลังยูเครนส่งสัญญาณเตือนว่าอาวุธกำลังจะหมดลงในเวลาไม่กี่เดือน หลัง สภาฯ สหรัฐฯ รับรองร่าง กม.อนุมัติเงินสนับสนุนก้อนใหม่ ล่าสุดรัสเซียยิงหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ในเมืองคาร์คีฟจนพัง
สื่อหลายสำนักรายงานว่า ยูเครนยิงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ที่ผลิตโดยอังกฤษและฝรั่งเศส เข้าไปในดินแดนรัสเซียเป็นครั้งแรก หลังจากก่อนหน้านี้ มีข้อจำกัดกำหนดไว้ว่ายูเครนใช้ขีปนาวุธดังกล่าวได้เฉพาะภายในพรมแดนยูเครนเท่านั้น ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากผู้นำสหรัฐฯ ไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธทางยุทธวิธี ATACMS ของสหรัฐฯ และหลายฝ่ายคาดว่าการเปิดทางให้ยูเครนใช้ขีปนาวุณที่มีพิสัยทำการไกลขึ้นของสหรัฐฯ จะส่งสัญญาณให้ชาติมหาอำนาจอื่นๆ ที่หนุนหลังยูเครนอยูู่เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกัน
สถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังเกิดการโจมตีหลายจุด โดยเฉพาะที่กรุงมอสโก ที่ตกเป็นเป้าการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดด้วย ทั้งสองฝ่ายยังเปิดฉากใช้โดรนโจมตีกันระลอกใหญ่ที่สุดตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น นอกจากนี้ กองทัพอากาศยูเครน ระบุว่าสกัดโดรนรัสเซียที่ผลิตโดยอิหร่านได้ 62 ลำ และอีก 67 ลำหายสาบสูญ ขณะที่อีก 10 ลำ บินกลับออกจากน่านฟ้ายูเครนไปทางรัสเซีย เบลารุส และมอลโดวา
เมื่อวานนี้ (2 ก.ย. 67) เป็นวันเปิดเรียนวันแรกในยูเครน ซึ่งรัสเซียเปิดฉากยิงขีปนาวุธถล่มหลายเมือง จนทำให้เด็ก ๆ ต้องย้ายไปเรียนกันในพื้นที่ใต้ดิน ท่ามกลางความเสียหายตามเมืองใหญ่ . นอกจากนี้ยังมีข้อมูลน่าสนใจจากสถาบันเพื่อการศึกษาสงครามที่ระบุว่า รัสเซียรุกคืบเข้าไปในดินแดนยูเครนได้มากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี ตลอดช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
สงครามรัสเซียยูเครนล่าสุด "ปูติน" ขู่พร้อมจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ หากอธิปไตยของรัสเซียถูกรุกราน โดยจากการประเมินพบว่า รัสเซียมีหัวรบนิวเคลียร์มากที่สุดในโลกและอยู่ในสถานะพร้อมใช้งานทันทีประมาณ 1,700 หัวรบ ซึ่งโอกาสที่รัสเซียจะทดสอบอาวุธนิวเคลียร์มีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากเมื่อปีที่แล้วรัสเซียได้ถอนตัวจากสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์
การโจมตีหลายเมืองของยูเครนจากกองทัพรัสเซียเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (10 ต.ค.) พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม มองว่า หากย้อนไป 30 วัน จะเห็นปฏิบัติการชิงพื้นที่คืนต่อเนื่องของยูเครน ทำให้มีการมองว่าเป็นความล้มเหลวของ “ปูติน” จึงทำให้เห็นการโต้กลับของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม แผนผนวก 4 แคว้นยูเครนที่ประสบความสำเร็จ ทำให้รัสเซียพอใจในระดับหนึ่งที่สามารถรวมพื้นที่เชื่อมกัน
การประกาศระดมกำลังพลสำรองจำนวน 3 แสนนาย เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ของ “ปูติน” ผู้นำรัสเซีย เพื่อต่อสู้ในยูเครน พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม มองว่า กำลังพลที่เรียกครั้งนี้ เพื่อนำไปทดแทนความสูญเสียของทหารในสงครามยูเครน และเตรียมสับเปลี่ยนกำลังในฤดูหนาว
"มิคาอิล กอร์บาชอฟ" อดีตผู้นำสหภาพโซเวียตคนสุดท้าย ถึงแก่อสัญกรรมในวัย 91 ปี "กัณฐัศศา พงษ์หิรัญ" ผอ.โครงการรัสเซียศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ มองว่าการล่มสลายของสหภาพโซเวียต มีทั้งคนเห็นด้วย ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง แต่ฝ่ายไม่เห็นด้วยคือ กลุ่มอนุรักษ์นิยมที่พยายามต่อต้าน ไม่อยากปรับตัว ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์อ่อนแอลง แต่เมื่อเทียบกับ "ปูติน" ที่มองว่า การล่มสลายของโซเวียต เป็นความหายนะ ต้องการรื้อฟื้นความยิ่งใหญ่กลับมาอีกครั้ง