ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 เรอัล มาดริด พบ แมนฯ ซิตี้ โดยนัดแรก แมนฯ ซิตี้ ชนะมาก่อน 4-3 ประตู เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูนำก่อน ในนาทีที่ 73 จาก ริยาด มาห์เรซ ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ประตูรวมนำห่าง 5-3 ประตู
หลังจากนั้น เปป กวาร์ดิโอลา เปลี่ยนผู้เล่นอย่าง เควิน เดอ บรอยน์, กาเบรียล เฆซุส และ มาห์เรซ ก่อนจะเจอทีเด็ดช่วงท้ายของ มาดริด มาได้ 2 ประตูรวดจาก โรดรีโก้ เป็นซูเปอร์ซับ ยิงนาที 90 และ โหม่งช่วงทดเจ็บนาทีที่ 91 ทำให้จบเกมประตูรวมเสมอกัน 5-5 ต้องต่อเวลาพิเศษ
และช่วงต่อเวลาพิเศษ คาริม เบนเซมา โดนทำฟาล์วในกรอบเขตโทษ และเจ้าตัวก็ลุกขึ้นมายิงจุดโทษ นาที 95 และเป็นประตูชัยช่วยให้ มาดริด ชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-1 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศด้วยประตูรวม 6-5
สำหรับ มาดริด เกือบจะตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่พวกเขาพลิกกลับมาชนะ ปารีส แซงต์แชร์กแมง ในนัดที่ 2 เช่นเดียวกับ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ก็เกือบจะตกรอบเพราะเชลซี แต่มาได้ประตูก่อนหมดเวลา 10 นาที จนชนะเชลซีในช่วงต่อเวลาพิเศษมาได้
ก็ต้องมาดูว่า มาดริด จะหยุดความร้อนแรงของ ลิเวอร์พูล ที่กำลังลุ้น 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้ได้หรือไม่ โดย มาดริด จะเข้าไปพบกับ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงที่สนามสตาดเดอฟร็องซ์ วันที่ 28 พ.ค.