วันนี้ (6 พ.ค.2565) จากกระแสการกิน "อึ่งชอต" โดยการนำอึ่งอ่างที่ผ่านการปรุงสุกนำมาใส่แก้วชอต จัดวางในลักษณะขาชี้ฟ้า หัวทิ่มแก้ว จุ่มอยู่ในน้ำจิ้มนั้น
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การกินในลักษณะนี้ ผู้บริโภคควรคำนึงถึงความสะอาด และต้องปรุงให้สุกร้อนอย่างทั่วถึง เพราะอึ่งอ่างเป็นสัตว์สี่เท้าสะเทินนํ้าสะเทินบก ที่มักพบการปนเปื้อนของไข่พยาธิหรือหนอนพยาธิในทางเดินอาหาร
การป้องกันที่ดีที่สุด คือ ควรหลีกเลี่ยงการกินอึ่งอ่างแบบสุก ๆ ดิบ ๆ หรือหากปรุงประกอบอาหารเอง ต้องล้างทำความสะอาดอึ่งอ่างทั้งตัว รวมทั้งควรนำเครื่องในออกมาล้างทำความสะอาด โดยนำมาเคล้าเกลือ เพื่อล้างเมือกหรือยางที่ตัวออก จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง จะช่วยลดการปนเปื้อนเชื้อโรคที่มากับตัวอึ่งอ่างได้ และควรปรุงด้วยความร้อนอย่างน้อย 70 องศาเซลเซียส นาน 2 นาทีขึ้นไป จะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหนอนพยาธิ และอาหารเป็นพิษได้
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลของอึ่งอ่างในระบบฐานข้อมูลโภชนาการของไทย แต่อึ่งอ่างจัดเป็นแหล่งโปรตีนของเนื้อสัตว์พื้นบ้านอาหารพื้นถิ่น เพราะกินแมลงชนิดต่างๆ จำพวกปลวก แมลงเม่า และมด เป็นอาหารหลัก คุณค่าทางโภชนาการจึงใกล้เคียงกับกบ ซึ่งเป็นสัตว์สี่เท้าสะเทินนํ้าสะเทินบกในวงศ์ใกล้กัน
อึ่งอ่างให้พลังงาน และไขมันต่ำ เมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ประเภทอื่น มีปริมาณโปรตีนระดับปานกลางการกินอึ่งอ่างให้ได้คุณค่าทางโภชนาการที่ดีนั้น ควรเพิ่มคุณค่าจากผักพื้นบ้านต่าง ๆ เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน เช่น ต้มยำ แกงอ่อม ต้มมะขาม หรือการทำเมนูอึ่งอ่างย่างหรือทอด ที่นิยมกินทั้งกระดูก อาจทำให้ได้แร่ธาตุเพิ่มด้วย