หลายฝ่ายจับตามองเป็นพิเศษ สำหรับสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในวาระครบรอบ 77 ปี วันแห่งชัยชนะ 9 พ.ค. โดยสุนทรพจน์ปีนี้ย้ำถึงการปกป้องดินแดนมาตุภูมิและวิพากษ์วิจารณ์ท่าทีชาติตะวันตกอย่างตรงไปตรงมา และระบุว่าการสู้รบของกองทัพรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครน ถือเป็นการปกป้องมาตุภูมิจากนาซี ขณะที่การเคลื่อนพลบุกยูเครนในนามปฏิบัติการพิเศษทางทหาร เป็นสิ่งจำเป็นและเกิดขึ้นในเวลาอันเหมาะสม
วันนี้ (10 พ.ค.2565) พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม วิเคราะห์สุนทรพจน์ของผู้นำรัสเซีย ในรายการ Newsroom Daily รายการออนไลน์ของไทยพีบีเอสว่า เป็นสุนทรพจน์ที่ราบเรียบ เหมือนสุนทรพจน์ที่ใช้ในราชการ ไม่ได้ประกาศชัยชนะ อย่างที่หลายคนเฝ้ารอที่จะได้ยิน การไม่ได้พูดคำว่าชัยชนะ หมายความว่า ปฏิบัติการตั้งแต่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ไม่เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ การกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้จึงเป็นเพียงการปลุกความรักชาติ รักแผ่นดิน และการพยายามหลอมรวมจิตใจของคนในประเทศให้เป็นหนึ่งเดียว
หลายคนคาดหวังว่า ผู้นำรัสเซียจะพูดถึงแนวทางสันติภาพหรือการเจรจาเพื่อหยุดยิง แต่ตลอด 10 นาทีของสุนทรพจน์ไม่มีข้อความดังกล่าว นั่นแปลว่า จะทำต่อไป
อีกยาวครับ อีกยาวแน่
พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้คาดเดายากมากสำหรับสถานการณ์รัสเซียยูเครนว่าจะยืดเยื้อถึงไหน มองไม่เห็นจุดร่วมในการประนีประนอม ขณะนี้ความเดือดและความกดดันต่าง ๆ ตกอยู่ที่ผู้นำรัสเซีย คำพูดต่าง ๆ ที่เคยพูดไว้ อย่างการข่มขู่โลกตะวันตกในหลาย ๆ เรื่อง ก็ย้อนมมาบีบบังคับตัวเองว่า ยังทำไม่ได้ ขณะที่การครอบครองหรือผนวกแผ่นดินบางส่วนของยูเครนยังต้องทำต่อไปให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ทั้งนี้ รัสเซียจะต้องปรับเพิ่มปฏิบัติการทางทหาร เนื่องจากปฏิบัติการทางบกไม่เป็นไปตามเป้า ปฏิบัติการทางอากาศและทางเรือจะเป็นทางเลือกใหม่ในขณะนี้
ปูติน มีความกังวลพอสมควร ที่ไม่สามารถบอกได้ว่า เราชนะแล้ว เมื่อพูดไม่ได้ก็ขาดความสง่างาม ตรงนี้ต้องเพิ่มอำนาจการรบให้เร็วและแรงขึ้น