วันนี้ (10 พ.ค.2565) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีข่าวการบุกเข้าตรวจสอบ สำนักลัทธิประหลาดที่หมู่บ้านกุดแคน จ.ชัยภูมิ เปิดรับรักษาโรคทุกชนิด โดยการรักษาให้ผู้ป่วยกินปัสสาวะ กินอุจจาระ กินเสมหะ และขี้ไคล รวมถึงยาที่ดองไว้นับ 100 โอ่งให้กินเป็นยารักษาโรค
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เมื่อพิจารณาการจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมภายใต้กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง พบว่า มีการปฏิบัติที่ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขในหลายประเด็น ตั้งแต่การจัดการสิ่งปฏิกูล ซึ่งตามกฏหมายว่าด้วยการสาธารณสุข ปัสสาวะ อุจจาระ และเสมหะ เข้าข่าย เป็นสิ่งปฏิกูลตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข ตามมาตรา 4
โดยกำหนดให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือสถานที่ใดๆ ปฏิบัติให้ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลตามข้อบัญญัติท้องถิ่น ที่กำหนดเกี่ยวกับสุขลักษณะของการจัดการสิ่งปฏิกูลตามความในมาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎกระทรวงสุขลักษณะการจัดการสิ่งปฏิกูล พ.ศ.2561 กรณีฝ่าฝืนกฎกระทรวงสุขลักษณะการจัดการสิ่งปฏิกูล พ.ศ.2561 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาทตามมาตรา 68
อ่านข่าวเพิ่ม แจ้ง 2 ข้อหา "บุกรุกที่ดินสาธารณะ-พ.ร.บ.โรคติดต่อ" เจ้าลัทธิประหลาด
แนะลูกศิษย์เข้าตรวจร่างกายด่วน-เสี่ยงรับหลายโรค
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า สำหรับการจัดการมูลฝอย หากพบว่า มีการรักษาคนป่วยในสำนักลัทธิประหลาดดังกล่าว กรณีที่มีมูลฝอยที่เกิดขึ้นจากการรักษาผู้ป่วยเจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องตรวจสอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่ดังกล่าวปฏิบัติให้ถูกต้องด้วยสุขลักษณะ โดยต้องมีการคัดแยกมูลฝอยที่เกิดขึ้นจากผู้ป่วยออกจาก มูลฝอยทั่วไป จัดหาภาชนะรองรับมูลฝอยที่เหมาะสม มีฝาปิดมิดชิด เป็นต้น
ทั้งนี้ หากพบว่ามีผู้ที่ป่วยเป็นโรคติดต่อ หรือโรคติดเชื้อร้ายแรง ต้องมีการจัดการมูลฝอยติดเชื้อให้เป็นไปตามกฎกระทรวงว่าด้วยการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อพ.ศ.2545 และข้อบัญญัติท้องถิ่นด้วยกรณีฝ่าฝืนกฎกระทรวงสุขลักษณะการจัดการมูลฝอยทั่วไป พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ตามมาตรา 68 และกรณีฝ่าฝืนกฎกระทรวงว่าด้วยการกําจัดมูลฝอยติดเชื้อ พ.ศ.2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่ 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 68/1
สิ่งที่น่าห่วงคือ สุขอนามัยของผู้เข้ารับการรักษาตามความเชื่อศรัทธา เนื่องจากการกินของเสีย อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของบุคคลนั้นได้ เพราะปัสสาวะ เสมหะ อุจจาระ ขี้ไคล ตามหลักวิทยาศาสตร์นั้น ในอุจจาระจะมีเชื้อโรค แบคทีเรีย พยาธิ เชื้อรา
ส่วนปัสสาวะแม้จะผ่านการกรองออกจากร่างกาย แต่ก็ไม่สมควรนำไปดื่ม เพราะเหมือนกับเสมหะที่ขับออกมา เป็นกลไกการดักจับเชื้อโรคของร่างกาย รวมถึงขี้ไคล ก็เป็นชั้นของผิวหนัง กำพร้าที่ลอกออกมาเมื่อหมดอายุ ซึ่งก็มีการหมักหมมของแบคทีเรียได้ด้วยเช่นกัน
บรรดาลูกศิษย์ที่ปฏิบัติงานในสำนักลัทธิประหลาดนี้ จำเป็นต้องได้รับการตรวจร่างกาย เพราะปฏิบัติงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ทั้งระบบระบายอากาศ กลิ่นเหม็นจากสิ่งปฏิกูลเป็นระยะเวลาหลายปี ทำให้ต้องสูดดม หรือสัมผัสสิ่งสกปรกนานติดต่อกัน จะผลกระทบต่อสุขภาพและระบบหายใจ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผงะ! สำนักประหลาดอาหารแห้ง "แจ่วบอง-ขนม" ส่งขายรถเร่-ออนไลน์
"กรมป่าไม้" แจ้งจับลัทธิประหลาดบุกรุกป่า 26 ไร่