อยากให้รู้ว่าผู้ว่าฯกทม. ที่เป็นช่างแบบผม จะทำทางเท้า ทำถนนให้เรียบไม่ได้
สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 4 เจ้าของฉายา “ไอรอนแมน” เพราะหลงไหลในซุปเปอร์ฮีโรไอรอนแมน ถึงขนาดเป็นของสะสม ด้วยเชื่อว่ามีส่วนคล้ายกับตัวเอง ในมุมของความสามารถทางวิศวกรรม ในการประดิษฐ์คิดค้น
จากหนึ่งกลายเป็นสอง จากสองกลายเป็นสาม ทยอยซื้อ-ทยอยเก็บ จนต้องสร้าง “ห้องลับ” ที่เป็นทั้งห้องทำงาน และพื้นที่เก็บของสะสมของรัก-ของหวง และด้วยความเหมือนในความต่างนี้ “ด็อกเตอร์เอ้” บอกว่า จะใช้ความรู้-ความสามารถในเชิงวิศวกรรม และจุดแข็งด้านเทคโนโลยี มาปรับเป็นนโยบายเพื่อรับใช้คน กทม.
อยากให้รู้ว่าผู้ว่าฯกทม. ที่เป็นช่างแบบผม จะทำทางเท้า ทำถนนให้เรียบไม่ได้ หรือเป็นวิศวกรจะทำให้ระบบไวไฟประชาชนใช้งาน และกล้องซีซีทีวีออนไลน์ ได้ เป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกคนถามไถ่ในเรื่องนี้
ไม่เพียงแต่ความสามารถในเชิงวิศวกรรม ที่เจ้าตัวบอกว่าไปคล้ายกับซุปเปอร์ฮีโร่ในดวงใจ แต่ก็มีข้อสังเกตถึงฐานะทางการเงินที่ไม่น่าจะแตกต่างกัน ระหว่าง “โทนี่ สตาร์ค” ที่ร่ำรวยระดับมหาเศรษฐี และ ด็อกเตอร์เอ้ที่มีทรัพย์สินรวมกับภรรยา ตามที่รายงานต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กว่า 3 ร้อยล้านบาท นับรวมถึงบ้านสีดำสไตล์โมเดิร์น ริมทะเลสาบ จนกลายเป็นที่มาของข้อร้องเรียนให้ตรวจสอบ เหตุร่ำรวยผิดปกติ
ภาพ:เฟซบุ๊กเอ้ สุชัชวีร์
ภาพ:เฟซบุ๊กเอ้ สุชัชวีร์
ไม่ใช่แค่ความมั่นใจ ว่าเหตุแห่งข้อร้องเรียน จะไม่กระทบต่อเส้นทางการเข้าสู่ตำแหน่ง แต่ผลสำรวจความเห็นผ่านสำนักโพลหลายแห่ง ที่กระเตื้อง-ตีตื้น ผู้สมัครคู่แข่งสำคัญ ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้ด็อกเตอร์เอ้ มากขึ้น
ไม่กังวล มีความมั่นใจว่าทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเสมอมา ทุกอย่างชัดเจนอธิบายได้ ตรงนี้เป็นเรื่องการเมืองล้วนๆ การเมืองไทยโหด ไม่ได้ทำให้คนรุ่นใหม่ที่มีความพร้อมมีความรู้ ออกมาอาสา แต่ตัวเองจะฉุดให้ได้ เพราะถ้าเป็นผู้ว่าฯจริงๆแล้วโดนได้ทุกวัน
ซึ่งเจ้าตัววิเคราะห์ว่า เป็นผลจากการลงพื้นที่อย่างหนัก โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้าย ที่บางวันเหลือชั่วโมงนอนเพียง 2 ถึง 3 ชั่วโมงเท่านั้น แม้จะยอมรับว่าล้า แต่ก็ยืนยันว่า “ยืนระยะได้” ด้วยความเป็นสปอร์ตแมน ออกกำลังกายต่อเนื่อง
ตารางงานลงพื้นที่ และเดินสายร่วมเวทีดีเบตสื่อมวลชน วันละหลายๆคิวงาน นอกจากจะถูกจัดวางโดยทีมงานเบื้องหลัง ด็อกเตอร์เอ้ ยังมีส่วนร่วมผ่านการประชุมหารือ ร่วมสะท้อน รับฟัง และยอมรับในความเห็นของทีมงาน คือ สิ่งที่ทีมหาเสียงประทับใจ และมั่นใจว่า ผลลัพธ์สุดท้าย จะสะท้อนผ่านผลการเลือกตั้งในแบบที่คาดหวัง
ภาพ:เฟซบุ๊กเอ้ สุชัชวีร์
ภาพ:เฟซบุ๊กเอ้ สุชัชวีร์
มงคล ปิยสุนทร ทีมงานเลขาฯ สุชัชวีร์ บอกว่า ตอนแรกที่เห็น ด็อกเตอร์เอ้ คิดว่าเป็นคนน่าหมั่นไส้ คนนี้เป็นใคร แต่ดูมีความเก๊กๆ ห แค่พอมาสัมผัส เขาเป็นตัวของตัวเองมาก และเชื่อว่าคนที่มาสัมผัสแล้วก็คิดแบบเดียวกัน
เขาไม่ได้มีอีโก้เลย เขารับฟังแต่ดุนะ
เช่นเดียวกับความเห็นของ อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ทีมงานช่วยหาเสียง บอกว่า เขามีแตกต่าง ในช่วงการลงพื้นที่ 50 เขตไม่ได้ลงหาเสียง แต่ให้ผู้สมัคร ส.ก.50 เขตพาลงไปดูปัญหาของทุกเขต ซึ่งบางเขตก็มีปัญหาคล้ายกัน เช่น น้ำท่วมน้ำขัง และปัญหาทางเท้า
เขาเป็นผู้สมัครที่รู้ปัญหาของคนกทม.ครบทั้ง 50 เขต
จากแวดวงวิชาการ กระโจนลงสนามการเมือง ฝ่ากระแสดราม่า ทั้งประเด็นร่ำรวยผิดปกติ และ "ทายาทสายตรงไอน์สไตน์" ด็อกเตอร์เอ้ ยอมรับว่า "การเมืองโหดร้าย" แต่ก็ประกาศความพร้อมที่จะทำหน้าที่ หากได้รับความไว้วางใจ
และคงไม่ใช่แค่แรงเสียดทานทางการเมือง ที่ต้องฝ่าฟันเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการแบกรับความคาดหวัง ในฐานะผู้สมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ ที่คาดหวังจะทวงคืนเก้าอี้ ที่เคยผูกขาดติดต่อกันมาหลายสมัย ท่ามกลางข้อสังเกตถึงกระแสความนิยมของพรรคจากคน กทม.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"สุชัชวีร์" พร้อมทำงานให้คนกรุง ยันทุกนโยบายทำได้จริง