วันนี้ (19 พ.ค.2565) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 พร้อมด้วย น.ส.สุชาดา เวสารัชตระกูล ผู้สมัครสก.เขตบางเขน ลงพื้นที่ตลาดยิ่งเจริญ พบปะพ่อค้าแม่ค้าประชาชนที่มาจับจ่ายในตลาดช่วงเช้า
นายสุชัชวีร์กล่าวว่า ภาพรวมการปราศรัยใหญ่ ที่เขตบางขุนเทียน เมื่อคืนที่ผ่านมา (18 พ.ค.2565) ว่า ประชาชนมากันหนาแน่น และอยู่ฟังจนจบการปราศรัย โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ ประชาชนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ
หากคิดแบบเดิมทำแบบเก่า กรุงเทพฯ ก็จะจม การที่ฝนตกก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 4 วัน เป็นการส่งสัญญาณ อย่างชัดเจนว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ ต้องคิดให้ดี ต้องเลือกผู้รู้และมีความเข้าใจเรื่องน้ำ มิเช่นนั้นกรุงเทพฯ จมน้ำแน่นอน
ขณะเดียวกัน มีเสียงสะท้อนจากประชาชน เรื่องปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้ง ดังนั้นหากได้เข้าไป เป็น ผู้ว่าฯ กทม. จะวางระบบการทำงานแก้ปัญหาน้ำท่วม ให้ทั้งหมด เปลี่ยนระบบระบายน้ำมาใช้ระบบไฟฟ้า อัตโนมัติ เปิด-ปิดประตูระบายน้ำ ยืนยันว่าตนมีความชำนาญ ด้านดินและน้ำ ด้วยการใช้ความรู้ด้านวิศวกรเข้ามาบริหารจัดการ
นายสุชัชวีร์กล่าวต่อว่า ระหว่างการหาเสียงที่ผ่านมา ได้พูดถึงในทุกนโยบายไปแล้ว ยังไม่มีนโยบายที่ยังไม่ได้พูดถึง ทุกนโยบายตกผลึกมาแล้ว เพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครที่ทันสมัย เป็นต้นแบบของอาเซียน ภายใน 4 ปี ตนจะทำให้สำเร็จ และเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
ผมงัดออกมาทุกไม้เด็ดแล้ว แต่ไม้ที่สำคัญที่สุดคือ ตัวของตัวเอง ที่มาด้วยความพร้อมที่สุด กรุงเทพฯ ต้องบริหารด้วยหลักวิชาการ ใครที่ไม่มีความรู้ไม่เข้าใจจะเข้ามามั่วซั่วไม่ได้
นายสุชัชวีร์กล่าวว่า ตนมาพร้อมกับวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ต้องการเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองสวัสดิการเพื่อทุกคน ทั้งนี้มั่นใจว่าคนกรุงเทพฯ มีศักยภาพ เหลือแต่ผู้ที่จะมาเป็นผู้ว่าฯ ที่ต้องผลักดัน และมั่นใจอีกว่าคนกรุงเทพฯ จะให้โอกาส คนที่มีพลังและมีความชัดเจนมานั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.
ตนเชื่อในประชาชน เพราะตนและส.ก.ของพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 50 เขต มีความชัดเจนตั้งแต่วันแรก ตั้งใจที่จะทำงานเพื่อเปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้ อีกทั้งจากการลงพื้นที่ เห็นสายตาประชาชนก็เชื่อมั่นว่าตนและส.ก.จะได้ทำงานอย่างแน่นอน
นายสุชัชวีร์ ยังกล่าวถึงนโยบายดูแลพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ที่ถือเป็นห่วงโซ่สำคัญทางเศรษฐกิจ หากไม่ดูแลพ่อค้าแม่ค้า เศรษฐกิจก็เดินหน้าไม่ได้ และต้องขายได้ทุกวัน ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.ต้องดูแลทุกเรื่อง ทั้งเรื่องทางเท้า ที่จะต้องราบเรียบสม่ำเสมอ ส่งเสริมการค้าขายในทุกพื้นที่ เมื่อทุกอย่างมีความชัดเจนก็จะไม่มีส่วย ไม่มีเส้น
สำหรับนโยบายเรื่อง LGBT+ ตนคิดมาเสมอว่า พี่น้อง LGBT+ คือส่วนหนึ่งของสังคม และไม่เคยมองว่าแตกต่างจากผู้อื่น ตนพร้อมสนับสนุนให้มีความเท่าเทียม ตั้งแต่ในสถานศึกษา รวมทั้งในหน่วยงานของกทม. ต้องผลักดันและส่งเสริมเรื่องความเท่าเทียมกัน ซึ่งจะทำให้สังคมมีความหลากหลายและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้อย่างแท้จริง