ก่อนหน้านี้ใช้ระบบ 2+2 คือให้ โควตาทีมแชมป์ไทยลีก และแชมป์เอฟเอคัพ ไปเล่นรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนอันดับ 3 และ 4 จากไทยลีกจะได้ไปเล่นเพลย์ออฟ
ถ้ายึดระบบเดิม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ได้แชมป์ไทยลีก และแชมป์เอฟเอคัพ และ บีจีปทุม ยูไนเต็ด รองแชมป์ จะได้เล่นรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนโควตาเพลย์ออฟ เป็นของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อันดับ 3 และ เมืองทอง ยูไนเต็ด อันดับ 4
แต่ไทยลีกปรับโควตาถ้วยเอเชียใหม่ โดยให้ฤดูกาลนี้และฤดูกาลหน้า เป็น 1+1 หมายความว่า ฤดูกาลนี้จะเหลือเพียง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ บีจีปทุม ยูไนเต็ด เท่านั้นที่ได้ไปเล่นถ้วยเอเชีย แบงค็อก ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด จะหมดสิทธิ์ทันที
แต่ 2 ทีมจากปีนี้ จะต้องไปรออีก 2 ทีม จากฤดูกาล 2022 - 2023 เพื่อไปแข่งถ้วยเอเชียที่มีการปรับโปรแกรมใหม่ ที่จะเปิดฉาก ส.ค. ในฤดูกาล 2023 และจบกลางปี 2024
วันนี้ทั้ง 2 ทีมก็ได้ เข้าไปยื่นหนังสือเพื่อคัดค้านและขอให้ไทยลีกพิจารณาโควตาใหม่เพราะไทยลีกประกาศหลังจาก จบฤดูกาลไปแล้ว ซึ่งไม่เป็นธรรม กับ สโมสร ที่ทุ่มเท ฝ่าฟัน เพื่อโควตาปีนี้
ทางออกที่หลายสโมสรเสนอก่อนหน้านี้คือ ให้ใช้ระบบเดิมคือ 2+2 ทั้ง 2 ฤดูกาล และให้จัดการแข่งขันเพลย์ออฟหาทีมไปเตะถ้วยเอเชีย แต่ไทยลีกเมินข้อเสนอนี้ ถ้าร้องเรียนไปแล้วไม่เป็นผล ทั้ง 2 ทีม จะเดินหน้าร้องเรียนไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทย AFC และ ถึง FIFA ในที่สุด
ก่อนหน้านี้เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) ประกาศว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงปฏิทินการแข่งขัน ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2023 – 2024 ใหม่ ซึ่งคร่อมปี เปิดฉากเดือน ส.ค.2023 และจบกลางปี 2024 จากเดิมเปิดฉาก เม.ย. และจบ พ.ย.ปีเดียวกัน
29 เม.ย.ที่ผ่านมา ไทยลีกเรียกทีมที่อยู่ในข่ายได้สิทธิ์ไป เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก มาหารือแบบกระชั้นชิด ก่อนไทยลีกจะจบ 2 นัดสุดท้าย โดยไทยลีกเสนอปรับระบบคัดเลือกตั้งแต่ฤดูกาลนี้ และ ฤดูกาล 2022 - 2023 ทันที เป็น 1+1 หมายถึงให้สิทธิ์แชมป์ไทยลีกแข่งรอบแบ่งกลุ่ม และ แชมป์เอฟเอคัพ แข่งคัดเลือก ซึ่งครั้งนั้นยังไม่ได้บทสรุป
แต่สุดท้ายวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ไทยลีก เสนอ เอเอฟซี ว่าจะแบ่งโควตาออกเป็นฤดูกาลละ 1+1
วันที่ 13 พ.ค. เอเอฟซี บอกว่า ไม่ขัดข้องในหลักการและให้เป็นอำนาจของสมาคมฟุตบอลฯของแต่ละประเทศ แต่ให้ยึดหลักการความโปร่งใส ถูกต้อง และเป็นธรรม
และวันที่ 21 พ.ค.ไทยลีกก็ประกาศว่า ให้ยึดโควตา ฤดูกาลนี้และ ฤดูกาลหน้าเป็น 1+1 เหมือนกันโดยไม่มีการประชุมอีก
ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทั้ง 2 ทีมไม่ใช่แค่เสียโอกาส แต่ยังรวมถึงการทุ่มเทในช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมาไม่มีความหมายไปด้วย และผลกระทบจากสปอนเซอร์ เพราะถ้าได้ไปเล่นถ้วยเอเชีย งบประมาณที่จะได้รับจากผู้สนับสนุนย่อมมีมากกว่า และยังกระทบกับผลประโยชน์ด้วยลิขสิทธิ์การถ่ายทอดด้วย