ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ครม.รับทราบสัดส่วนหนี้สาธารณะ มี.ค.65 อยู่ที่ 60.58%

การเมือง
30 พ.ค. 65
17:23
125
Logo Thai PBS
ครม.รับทราบสัดส่วนหนี้สาธารณะ มี.ค.65 อยู่ที่ 60.58%
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ครม.รับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะตามมาตรา 50 โดยหนี้สาธารณะมีต่อจีดีพีอยู่ที่ 60.58 ภายใต้ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ซึ่งยังภายใต้กรอบที่กำหนดไม่เกินร้อยละ 70

วันนี้ (30 พ.ค.2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงมติคณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 ณ วันที่ 31 มี.ค.2565 โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพี (GDP) อยู่ที่ 60.58 ซึ่งยังภายใต้กรอบที่กำหนดไม่เกินร้อยละ 70 รายละเอียด กรอบการบริหารหนี้สาธารณะตามมารา 50 ดังนี้

1. สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ร้อยละ 60.58 กรอบที่กำหนดไม่เกินร้อยละ 70 หนี้สาธารณะ 9.9 ล้านล้านบาท GDP 16.4 ล้านล้านบาท

2. สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณร้อยละ 26.77 กรอบที่กำหนด ไม่เกินร้อยละ 35

3. สัดส่วนหนี้ฯ ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ต่อหนี้สาธารณะทั้งหมด ร้อยละ 1.79 กรอบที่กำหนด ไม่เกินร้อยละ 10

4. สัดส่วนภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการ อยู่ที่ ร้อยละ 0.07 กรอบที่กำหนด ไม่เกินร้อยละ 5 โดยที่ภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศ 6,795.69 ล้านบาท รายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการ 10,177,826.46 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่า จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 รัฐบาลจึงมีความจำเป็นในการดำเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบและกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการกู้เงิน ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส  COVID-19 ทำให้ปริมาณหนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ระบบเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว เป็นผลให้ช่วงเดือน มี.ค.นี้ มีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย

ทั้งนี้ สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศและทั่วโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว ทำให้ความสามารถในการจัดเก็บรายได้สูงขึ้นประกอบกับการบริหารความเสี่ยงหนี้ต่างประเทศที่มีต่อเนื่อง ทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมด และสัดส่วนภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้ของการส่งออกและสินค้าอยู่ในระดับต่ำ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง