ฝ่ายค้านตั้งฉายา "พ.ร.บ.งบฯ ฉบับขูดรีดประชาชน”

วันนี้ (1 มิ.ย.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 2 ประชุมสภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยวันแรกใช้เวลา 14 ชั่วโมง เมื่อเวลา 09.10 น. น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นผู้อภิปรายคนแรก ระบุ ร่างงบฯปี 66 ไม่ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจแต่ยังออกแบบทำงบเพื่อขูดเลือดขูดเนื้อประชาชน ซ้ำเติมคนกำลังลำบากจากโควิด-19 จึงขอเรียก "ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฉบับขูดรีดประชาชน”

น.ส.จิราพร กล่าวว่า รัฐมีรายได้หลักจาก 3 ช่องทางคือรายได้จากภาษี รายได้จากรัฐวิสาหกิจ และเงินกู้ สูง 717,000 ล้านบาท แต่กลับปรับเพดานกู้ลงมาอยู่ที่ 695,000 ล้านบาท เพื่อให้ตัวเลขการกู้ดูน้อยกว่าปี 65 คือลดลง 5,000 ล้านบาทแต่เก็บภาษี 90,000 ล้านบาท ผลักภาระให้พี่น้องประชาชน

 

นอกจากนี้ปี 2566 ประมาณการรายรับภาษีรัฐวิสาหกิจ ตั้งเป้าเก็บเพิ่ม 674,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 99,000 ล้านบาทคำถามจะเก็บจากผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ขนาดกลาง หรือเอสเอ็มอี แต่ถ้าคิดว่าจัดเก็บตามเป้า พบว่ารายได้ภาษี 80% มาจากผู้ประกอบการขนาดใหญ่ แต่ถ้าเก็บไม่ได้กังวลจะมาเก็บที่ขนาดเล็ก เอสเอ็มอี รวมทั้งการเก็บภาษีที่ดินเพื่อกระจายความมั่งคั่งจากคนรวย แต่กลับมีการมีช่องโหว่ พบใจกลางกทม.มีสวนป่าผลไม้ กลายเป็นคนที่ถูกเก็บเป็นระดับเล็กเพิ่งจะมีอสังหาริมทรัพย์

น.ส.จิราพร ระบุอีกว่า รัฐบาลรีดภาษีจากประชาชน และยังหาเงินจากรัฐวิสาหกิจเพิ่มงบปี65-66 เรียกเงินเข้าคลังเพิ่มขึ้นอีก 5% เช่นจาก กฟผ./กฟภ./กฟน.เดิมส่งคลัง 40% ของกำไร แต่ปี 65-66 ต้องส่งเข้าคลัง 50%ของรายได้ครึ่งหนึ่งเข้ารัฐ

ไม่ใช่เรื่องผิด แต่สะท้อนว่ารัฐบาลสิ้นไร้ไม้ตอกไม่รู้จะนำเงินจากที่ไหนจึงต้องหาจากส่วนนี้ และสิ่งที่กระทบประชาชนคือ 2 ปี กพพ.ขึ้นค่าไฟอย่าง 4 บาทต่อหน่วยกลายเป็นภาระของประชาชน รัฐไม่กำกับเพราะต้องการได้ส่วนแบ่งกำไรมารัฐบาลใช่หรือไม่

ภาษีเพิ่ม-ค่าไฟพุ่ง -ค่าครองชีพลด 

น.ส.จิราพร กล่าวว่า ทั้งนี้ประชาชนเสียทั้งขึ้นทั้งล่อง ภาษีจ่ายเพิ่ม ค่าไฟพุ่ง ค่าครองชีพลดลง ผลักให้ประชาชนไปตายเอาดาบหน้า สถิติ 2557-2564 รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จัดเก็บภาษีพลาดเป้าทั้งหมด มีเพียงปี 62 ที่เข้าเป้าจัดเก็บภาษีจากที่ประมาณการ 3,032,600 ล้านบาทเก็บได้จริง 3,061,071 ล้านบาท

ขณะที่ปี 2563-65 มีงบลงทุนทั้ง 3 ปีรวมกันกว่า 3,405,668 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นปี 2563 จำนวน 644,425 ล้านบาท ปี 64 จำนวน 649,310 ล้านบาท และปี 2565 จำนวน 611,933 ล้านบาท รวม 1.5 ล้านล้านบาท

รัฐบาลใช้เงินมือเติบสุรุ่ยสุร่าย แต่หารายได้ไม่เป็นยังวนเวียนลงทุนในโครงการแบบเก่าเมื่อ 20-30 ปี ไม่ทำนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อวางรากสร้างฐานรายใหม่ วันนี้พอเกิดวิกฤติประเทศจึงน่วม

"นายกรัฐมนตรี" พอใจภาพรวมอภิปรายวันแรก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พอใจภาพรวมวันแรกของการอภิปรายวันแรก ในส่วนของรัฐบาลใช้เวลาได้คุ้มค่า ชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริง และข้อมูลที่เป็นประโยชน์

นายกรัฐมนตรี ยืนยันร่างพ.ร.บ.ประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนประเทศ นำมาใช้พัฒนาฟื้นฟูประเทศในทุก ๆ ด้าน ขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า การใช้งบประมาณของรัฐบาลยึดหลักกรอบวินัยการเงินการคลังเป็นสำคัญ รัฐบาลจะใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งได้มีการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว

นายกรัฐมนตรี หวังให้การอภิปรายฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ขอให้ทุกท่านในสภาฯ ทำหน้าที่ของตัวเองทั้งในการชักถาม ชี้แจงประเด็นที่เป็นประโยชน์สร้างการรับรู้ ขออย่าใช้เวทีการอภิปรายฯ สร้างความสับสนเพื่อหวังผลทางการเมือง