วันนี้ (1 มิ.ย.2565) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ย้ำหลักการของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (PDPA) คือ ต้องการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนได้รับการปกป้องไม่ให้นำไปใช้ทางที่ไม่ถูกต้อง เพราะเมื่อเวลาที่ประชาชนไปติดต่อธุรกรรมต่าง ๆ หรือ ซื้อของผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ทำให้ข้อมูลของผู้ใช้บริการจะถูกร้านค้าเก็บข้อมูลไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ ทั้ง ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ประวัติการรักษาพยาบาล หากจะนำไปใช้หรือเปิดเผยต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลก่อน
แต่ถ้านำไปใช้โดยไม่ได้รับคำยินยอมและทำให้เสียหาย สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย โดยโทษอาญาจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท แต่ในรายละเอียดก็ว่ากันไป เช่น การโพสต์รูป ถ่ายรูปติดผู้อื่น ถ้าติดโดยไม่มีเจตนา หรือทำให้เสียหาย ก็ไม่มีความผิด
เช่นเดียวกับสื่อมวลชนที่เสนอข่าวเกี่ยวกับบุคคล หรือ ข้อมูล ถ้าเป็นเรื่องที่เปิดเผยถือว่าไม่มีความผิด แต่ถ้าไปเสนอข้อมูลส่วนตัวที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เช่น พฤติกรรมทางเพศ รสนิยมบางอย่างที่ไม่อยากเปิดเผย หรือข้อมูลสุขภาพ ประวัติการรักษาโรค ถ้าจะเปิดเผยต้องได้รับการยินยอมก่อน ซึ่งเจ้าตัวมีสิทธิจะฟ้องร้องถ้าทำให้ได้รับความเสียหาย
นายชัยวุฒิ ยังย้ำว่า ถ้าข้อมูลสาธารณะ หรือ ข้อมูลที่เป็นส่วนบุคคล เช่น คำพิพากษาศาลที่เปิดเผยอยู่แล้ว หรือข้อมูลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่เกี่ยวกับการทุจริต สามารถนำเสนอข่าวได้ เพราะถือเป็นข้อมูลสาธารณะแต่ต้องระมัดระวัง ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนนำเสนอข้อมูลลับสื่อเองต้องระวัง เพราะกฎหมายฉบับนี้ออกมาเพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชน