วันนี้ (6 มิ.ย.2565) เวลา 13.00 น. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.สุเทพ เพชรมาก หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข้อมูลการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 และสถานการณ์โรคฝีดาษลิง
นพ.โอภาส กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผ่อนปรนให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ขณะนี้ยังไม่พบแนวโน้มผู้ติดเชื้อ COVID-19 จากสถานบันเทิงมากขึ้น แต่ต้องติดตามสถานการณ์อีก 1-2 สัปดาห์
สำหรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 5 ยังไม่มีคำแนะนำอย่างเป็นทางการ เนื่องจากมีข้อมูลไม่เพียงพอ ส่วนกลุ่มที่ควรได้รับวัคซีนเข็มดังกล่าว ขอให้แพทย์พิจารณาตามความเหมาะสม ยกตัวอย่างผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งต้องฉีดวัคซีนเป็นรายชนิด เช่น จีน ต้องฉีดซิโนแวค ซิโนฟาร์ม, ญี่ปุ่น ต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม โดยมีเข็มกระตุ้นเป็น mRNA
นอกจากนี้ จะฉีดวัคซีนเข็มที่ 5 ในกรณีที่ฉีดไปแล้ว 4 เข็ม แต่พบว่าภูมิคุ้มกันไม่ค่อยขึ้น หรือมีโรคประจำตัวบางอย่างที่หากเจ็บป่วยแล้วมีอาการรุนแรง โดยแพทย์จะใช้ดุลยพินิจในการฉีดวัคซีน
อธิบดีกรมควบคุมโรค ยังกล่าวถึงสถานการณ์โรคฝีดาษลิง ว่า ระยะไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พบรูปแบบการแพร่ระบาดจากคนสู่คน ติดต่อทางสารคัดหลั่งหายใจ สัมผัสสิ่งปนเปื้อน ส่วนสมมติฐานว่าติดทางเพศสัมพันธ์นั้นเป็นข้อสังเกต แต่ยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนเพียงพอ โดยมีระยะฟักตัว 5-21 วัน อาการสำคัญ คือ มีไข้ ปวดหัว ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว มีผื่นขึ้น ส่วนใหญ่หายป่วยเองได้
พบฝีดาษลิงใน 43 ประเทศ
ขณะที่ทั่วโลกพบการแพร่ระบาดโรคฝีดาษลิงใน 43 ประเทศ ผู้ป่วยยืนยัน 920 คน ผู้ป่วยสงสัย 70 คน รวม 990 คน ซึ่งการแพร่ระบาดไม่รวดเร็วหากเปรียบเทียบกับ COVID-19 อีกทั้งอาการไม่รุนแรง ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดระบบเฝ้าระวัง คัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เตรียมห้องปฏิบัติการ และเตรียมจัดหาวัคซีนหากจำเป็น
นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในประเทศไทย พร้อมขอประชาชนอย่ากังวล เนื่องจากมีระบบเฝ้าระวังและตรวจจับผู้ป่วยและควบคุมการแพร่ระบาดได้
ขณะที่ นพ.สุเทพ กล่าวถึงภาพรวมการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ว่า มีผู้สูงอายุ 2 ล้านคน และเด็กอายุ 5-11 ปี อีก 2 ล้านคน ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ซึ่งต้องรณรงค์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ส่วนวัคซีนเข็มกระตุ้นจำเป็นต้องฉีดให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 60 เพื่อผ่อนคลายให้กิจกรรมต่าง ๆ ได้ หากให้เป็นไปตามเป้าหมายจะต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 อีก 9-10 ล้านโดส ต่อด้วยเข็มที่ 2 และเข็มที่ 3 อีกกว่า 15 ล้านโดส