วันนี้ (9 มิ.ย.2565) ญาติผู้ต้องขังคดีเกี่ยวกับพืชกัญชา มารอรับผู้ต้องขัง อยู่ที่หน้าทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทันทีที่ราชกิจจานุเบกษาประกาศบังคับใช้ยกเลิกกัญชาเป็นยาเสพติดประเภท 5 ผู้กระทำความผิดกับคดีกัญชาจะไม่มีความผิดอีกต่อไป และให้ผู้กระทำความผิด พ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด หากรับโทษอยู่ก็ให้การลงโทษสิ้นสุดลง มีผลบังคับใช้วันนี้วันแรก
ญาติของผู้ต้องขังคนหนึ่งเดินทางมารอรับสามีและหลานชาย ที่ถูกจองจำอยู่ในเรือนจำนานกว่า 7 เดือน หลังถูกดำเนินคดีร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้ในการครอบครอง กัญชากว่า 400 กิโลกรัม โดยยอมรับว่า รู้สึกดีใจที่สามีและหลาน จะได้รับอิสรภาพ ส่วนหนึ่งเกิดจากการปลดล็อกกัญชา ยกเลิกเป็นยาเสพติด จึงทำให้สามีซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างอิสระอีกครั้ง และมองว่าหากนำกัญชาไปใช้ในทางที่ถูกก็ทำให้เกิดประโยชน์
ส่วนขั้นตอนการปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีกัญชา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จะจัดส่งคำร้องของผู้ต้องขังที่ได้สำรวจไปยังศาลออกหมายจำคุก ให้ศาลออกหมายปล่อยตัว และให้ศาลส่งหมายดังกล่าวกลับมาที่เรือนจำและทัณฑสถาน เพื่อปล่อยตัวผู้ต้องขัง เพื่อคืนอิสรภาพ
การปล่อยตัวผู้ต้องขัง อาจไม่ได้ถูกปล่อยตัวทั้งหมดในวันนี้เพียงวันเดียว ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการดำเนินยื่นคำร้องของเรือนจำแต่ละแห่ง และการตรวจสอบข้อมูลประวัติของผู้ต้องขังจากศาล
สำหรับจำนวนผู้ต้องขัง ที่ถูกปล่อยตัวคดีกัญชา ของทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง มีผู้ต้องขังคดีกัญชารวม 275 คน แบ่งเป็นคดีกัญชาอย่างเดียวจำนวน 193 คน และคดีกัญชากับคดีอื่น จำนวน 82 คน
ข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า มีผู้ต้องหาที่กระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกัญชา ที่อยู่ในการควบคุมของกรมราชทัณฑ์ ทั้งหมด 4,075 คน แยกเป็นผู้ต้องขังที่กระทำความผิดเกี่ยวกัลพืชกัญชาคดีเดียว จำนวน 3,071 คน และกรณีที่กระทำความผิดฐานอื่นร่วมด้วย 1,004 คน