วันนี้ (9 มิ.ย.2565) สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ระบุว่า รัฐบาลเร่งจัดทำแพ็กเกจมาตรการชุดใหม่ เพื่อดูแลค่าครองชีพและสกัดเงินเฟ้อ แต่ต้องดูเงินในกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงว่าจะมีเงินเพียงหรือไม่
พร้อมหารือกับโรงกลั่น เพื่อลดค่า เพราะเท่าที่ติดตามค่าการกลั่นมาระยะหนึ่ง พบว่าค่อนข้างสูงมายาวนาน แต่การจะลดค่ากลั่นลงต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะไทยค้าน้ำมันเสรี จะต้องไม่ให้กระทบตลาดการค้าน้ำมันเสรีและธุรกิจโรงกลั่น
สำหรับมาตรการค่าไฟฟ้า งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.2565 ยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลสำหรับประชาชนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยค่าไฟฟ้าจะไม่ขยับขึ้น
ขณะที่การสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน พ.ค.2565 พบว่า ลดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.ย.2564 เป็นต้นมา เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน และค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น
ภาคเอกชนเห็นว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เพราะเป็นต้นทุนในขณะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว กำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัวลง สวนทางราคาสินค้าหลายรายการที่ปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุน รัฐบาลควรหามาตรการที่จะช่วยดูแลผู้บริโภค
ด้านประธานบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ต้นทุนการผลิตขณะนี้สูงสุดในรอบ 26 ปี ทำให้บริษัทอยู่ระหว่างการขอปรับราคาสินค้าหลายรายการ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผงซักฟอก หากรัฐคุมราคานานเกินไปอาจส่งผลให้เกิดการขาดแคลน
อ่านข่าวอื่นๆ
"พลังงาน" เตรียมถกร่วมขอลดค่าการกลั่นน้ำมัน
กนง.มีมติคงดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี คาดเงินเฟ้อ 6.2%
นักวิชาการ TDRI ชี้เงินเฟ้องานหิน แนะรัฐอุ้มกลุ่มหาเช้ากินค่ำ