ความคืบหน้าคดีสามี-ภรรยาชาวไทยถูกฆาตกรรมและยัดศพใส่รถยนต์จอดทิ้งที่สถานีรถไฟความเร็วสูงเขาหยวน ไต้หวัน ซึ่งผู้ต้องสงสัย คือ นายสันติ หรือนายหวัง หุ้นส่วนทางธุรกิจ
วันนี้ (14 มิ.ย.2565) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม เตรียมนำพยานหลักฐานไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดา ให้ออกหมายจับนายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน ในฐานความผิดฐานฆ่าผู้อื่น หลังผู้ช่วยทูตตำรวจไต้หวัน ประเทศไทย เข้าพบเพื่อประสานข้อมูลพยานหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ และเอกสารต่าง ๆ ในการติตตามตัวนายสันติที่หลบหนีคดีกลับมาไทย
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhwhde988QycsNIAN4uswjds7KWa.png)
ล่าสุดเวลา 12.30 น. ศาลอาญาอนุมัติจับนายสันติ ในคดีฐานฆ่าผู้อื่น หลังพ่อของนางลี่ เป็นผู้ร้องทุกข์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8 (ก) , (4) ซึ่งตามกฎหมายพ่อ ถือเป็นผู้เสียหายในกรณีลูกสาวถูกฆ่า
ในกฎหมายอาญา มาตรา 8 ว่าด้วยผู้ใดกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร และ (ก) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้น หรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ (4) ความผิดต่อชีวิต ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 288 ถึงมาตรา 290
จากข้อมูลที่ตำรวจสอบปากคำพ่อของผู้เสียชีวิต ทราบว่า นายสันติ เดินทางออกจากประเทศไทยไปไต้หวัน เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2565 และเดินทางกลับเข้าไทย เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2565 จากนั้นนั่งเครื่องต่อไปยัง จ.เชียงใหม่ โดยพบว่ามีรถยนต์ของคนในครอบครัวนายสันติ ขับพานายสันติมุ่งหน้าไปทาง จ.อุตรดิตถ์ ต่อเนื่อง จ.พิษณุโลก ซึ่งตำรวจเชื่อว่า นายสันติยังหลบหนีในไทย
สำหรับนายสันติ ถือหนังสือเดินทาง 2 สัญชาติ คือ สัญชาติไทยและไต้หวัน คดีนี้แม้ความผิดจะเกิดนอกราชอาณาจักร แต่ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตเป็นคนไทย อีกทั้งผู้ก่อเหตุหลบหนีเข้ามาไทย ตำรวจจึงมีอำนาจดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8 โดยมีผู้เสียหายตามกฎหมาย คือ พ่อ แม่ ภรรยาและบุตร เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำความผิด ซึ่งตามหลักการการดำเนินคดี ทำได้เช่นเดียวกับเหตุที่เกิดในไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.รอหมายจับผู้ก่อเหตุฆ่าคนไทยจากไต้หวัน ล่าสุดยังไม่พบตัว
ตร.พร้อมหาผู้ก่อเหตุหนีเข้าไทย หลังฆ่า 2 สามีภรรยาที่ไต้หวัน
ผบ.ตร.มั่นใจเอาผิดมือฆ่ายัดศพสามี-ภรรยาที่ไต้หวันได้