วันนี้ (17 มิ.ย.2565) ชนม์เจริญ ทับทิมโต ตัวแทนจาก กลุ่มนิติฮับ ร่วมกับสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) เดินทางมายังเนติบัณฑิตยสภา เพื่อยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าเกี่ยวกับการขอแก้ไขข้อบังคับเนติบัณฑิตยสภา พ.ศ.2507 ข้อ 17 ว่าด้วยการแต่งกายทนายความ เพื่อให้ทนายความหญิงสวมกางเกงไปศาลได้
นายชนม์เจริญ ระบุว่า หลังจากเปิดล่ารายชื่อผ่านแคมเปญใน Change.org ล่าสุด มีผู้ลงชื่อสนับสนุนแล้วมากกว่า 16,000 คน จึงได้นำรายชื่อมายื่นเพิ่มเติม และหวังว่าทางเนติบัณฑิตยสภาจะดำเนินการแก้ไข และไม่ตอบกลับมาเพียงว่ารับทราบเรื่องเหมือนก่อนหน้านี้
ขณะที่ น.ส.ศุภมาศ สุญญาภัคโภคิน ทนายความหญิง สนส. ซึ่งในวันนี้ได้สวมกางเกง เดินทางมาร่วมยื่นหนังสือเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการสนับสนุนให้เกิดการแก้ไขข้อบังคับให้เดินหน้าต่อไป
น.ส.ศุภมาศ ยืนยันว่า การเป็นทนายความควรให้ความสำคัญกับกระบวนการพิจารณาคดีหรือเนื้อหาตัวบทกฎหมาย ไม่ใช่การแต่งกาย แต่การสวมกางเกงของทนายความหญิง กลับสามารถทำลายเส้นทางอาชีพนักกฎหมายของทนายความได้ ข้อบังคับนี้กำลังละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพราะนี่คือสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย ตามรัฐธรรมนูญ
เราไม่เข้าใจเลย เรื่องกระโปรง กางเกงมันสำคัญมากขนาดไหน ถึงทำให้เราถูกเพิกถอนใบอนุญาต ตัดสิทธิทำมาหากินในอาชีพได้ หากถูกร้องมรรยาท ทั้งที่ไม่ได้บกพร่องในหน้าที่การว่าความ
ด้าน ผศ.ดร.ศรีพัชรา สิทธิกำจร ผอ.กองกลาง เนติบัณฑิตยสภา ได้เดินลงมารับหนังสือ พร้อมยืนยันว่า จะติดตามความคืบหน้าต่อไป แต่ทราบเรื่องว่าขณะนี้มีการยื่นร้องต่อศาลปกครองแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน ทางเนติบัณฑิตยสภา จึงอาจต้องรอคำวินิจฉัยของศาลก่อนจะพิจารณาเกี่ยวกับการแก้ไขข้อบังคับต่อไป
การเดินทางมาครั้งนี้ของ นิติฮับ และ สนส. นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งที่ 2 หลังเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2564 พวกเขาได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธานศาลฎีกา สภาทนายความฯ และเนติบัณฑิตยสภามาแล้ว แต่ผ่านมานานกว่า 6 เดือนกลับไม่มีความชัดเจนใด ๆ เกี่ยวกับการแก้ไขข้อบังคับดังกล่าว และทนายหญิงยังต้องเผชิญกับปัญหาการแต่งกายไปศาลอยู่ทุกวัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ทนายแจม" กับ 1 ปี ที่สวมกางเกงไปศาล เพื่อสิทธิทนายหญิง