จับตา 4 บิ๊กตร.ตัวเต็งผบ.ตร.คนใหม่
หากนับตามความอาวุโส พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถือว่ามีความอาวุโสอันดับหนึ่งและยังเคยเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกับพล.ต.อ.สมยศ มาก่อน เมื่อพลาดตำแหน่งก็มีเสียงวิพากวิจารณ์ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเวลานั้นว่าเกิดสัญญาลูกผู้ชายที่ว่าจะให้พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก่อนและปี 2558 จะถึงคิวของพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ซึ่งเป็นผู้ที่อาวุโสรองลงมาและยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับพล.ต.อ.สมยศ โดยได้รับมอบหมายดูแลงานด้านยาเสพติด สานต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาล ซึ่งถือว่าน่าจับตามอง แม้พล.ต.อ.พงศพัศ จะมีภาพลักษณ์ที่ติดกับกลุ่มการเมือง ถึงขั้นลาราชการไปสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคเพื่อไทย แต่ถือว่ามีมวลชนที่สามารถต่อรอง และอาจสานงานต่อลักษณะหนามยอกเอาหนามบ่ง เพราะยังมีคดีถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในมือของว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ที่ต้องดำเนินการต่อ
พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้อาวุโสอันดับ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนและเป็นน้องชายของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นักการเมืองที่ถูกมองว่ามีความสนิทสนมกับทุกขั้วการเมือง ถือว่าเป็นบุคคลที่น่าสนใจและอาจกลายเป็นม้ามืดที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลือกมาทำหน้าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 11
ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ก็ถูกจับตามากที่สุด ที่มีความอาวุโสน้อยที่สุด นอกจากผลงานด้านสายความมั่นคง ยังมีรายงานว่ามีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือบิ๊กป้อม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเคยให้สัมภาษณ์ว่า ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไปจะต้องทำงานร่วมกับรัฐบาลและคสช.ได้
สำหรับขั้นตอนการสรรหาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 11 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. จะเป็นผู้คัดเลือกเพียง 1 รายชื่อ และเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเพื่อลงนามเห็นชอบ
โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่จะต้องเข้ามารับภาระทั้งการสานต่องานปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่กระแสสนับสนุนบ่อนกาสิโนแบบสุดตัวก่อนเกษียณอายุราชการของพล.ต.อ.สมยศ ถูกมองว่ากำลังสร้างกระแสกลบภาระเรื่องการถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณอยู่หรือไม่