ภายหลังพ่อของผู้เสียชีวิต ตัดสินใจให้ข้อมูลตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) แกะรอยเบาะแสผู้ต้องหาที่ใช้บัญชีอวตารในสื่อสังคมออนไลน์ หลอกถ่ายภาพอนาจารและนำมาข่มขู่ผู้เสียหาย
ล่าสุด ทีมสืบสวนใช้เวลากว่า 2 เดือน ในการตรวจ IP Address และตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ รวมถึงให้ตำรวจหญิงปลอมตัวเป็นสมาชิกกลุ่มคอสเพลย์ สร้างโปรไฟล์จนสามารถเข้าถึงตัวผู้ต้องหาได้และในที่สุดสามารถพบหลักฐานนำไปสู่การตรวจค้นบ้านและจับผู้ต้องหา ซึ่งผลการตรวจค้นก็พบหลักฐานหลายอย่างชัดเจน และนอกจากผู้เสียชีวิต ตำรวจยังพบผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงที่ถูกหลอกอีกหลายคน
ด้านผู้ต้องหารับว่า ใช้บัญชีอวตาร โดยภาพเด็กหญิงที่อยู่ในอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์เป็นแฟนเก่า และผู้ที่เคยคุยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในวงการคอสเพลย์ซึ่งเป็นหนึ่งในวงการที่ผู้ต้องหาสนใจนอกจากเกม โดยจะใช้การติดต่อแลกเปลี่ยนจนไปถึงขั้นให้ส่งภาพมาให้
พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. เปิดเผยผลการสืบสวน พบว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับเด็กหญิง 15 ปี อีกกว่า 10 คน ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจจะเร่งตรวจหาแหล่งปลายทางของคลิปรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีทั้งหมด พร้อมทั้งจะสอบสวนหาข้อมูลให้ได้ความชัดเจนว่า ผู้ต้องหาเป็นสาเหตุของการตายหรือไม่ ซึ่งจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง
เบื้องต้น การกระทำของผู้ต้องหาเข้าข่ายความผิดฐาน "ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองและผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ