วันนี้ (26 มิ.ย.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ภายในซอยสำเพ็ง ซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่าเกิดควันที่หม้อแปลง ก่อนจะเกิดไฟไหม้ที่สายไฟ ลามไปที่อาคารพาณิชย์และรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างถนน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน
นายโกศล ขาวสำอางค์ ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตวัดเลียบ การไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า ระบบการป้องกันอันตรายของไฟฟ้า ปกติจะมีระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร 2 ส่วน ส่วนแรก คือ ระบบป้องกันที่หม้อแปลงไฟฟ้า ตัดวงจรไฟฟ้าจากหม้อแปลงที่ส่งไปยังอาคารบ้านเรือน ส่วนที่ 2 คือ การตัดวงจรจากสถานีจ่ายไฟ
แต่เหตุการณ์ไฟไหม้อาคารพาณิชย์ย่านสำเพ็งครั้งนี้ สังเกตได้ว่าระบบป้องกันที่หม้อแปลงไม่ทำงาน แต่ระบบป้องกันที่สถานีตัดไฟแทน จึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ว่าเกิดจากปัญหาของอุปกรณ์หรือส่วนใด โดยวิศวกรชำนาญการพิเศษของการไฟฟ้าจะเข้าตรวจสอบ พร้อมกับตำรวจและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ทั้งนี้ คาดว่าจะทยอยจ่ายไฟฟ้าให้กับบ้านและอาคารโดยรอบ เช่น ซอยวานิช ภายในเวลา 18.00 น. ขณะเดียวกันการไฟฟ้านครหลวงจะเยียวยาเบื้องต้นสำหรับผู้ประสบภัย ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ โดยยังไม่ต้องพิสูจน์สาเหตุ
"ชัชชาติ" ชี้ไฟไหม้ย่านสำเพ็งบทเรียนราคาแพง
ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ โดยระบุว่า สาเหตุของเพลิงไหม้ได้รับรายงานเบื้องต้นว่ามาจากหม้อแปลงไฟระเบิด ลุกลามไปด้านในอาคาร รวมถึงมีสายไฟและสายสื่อสารจำนวนมากที่อาจเป็นส่วนช่วยให้ไฟลุกลามไป ประกอบกับมีวัสดุในอาคารที่เป็นเชื้อเพลิงจึงทำให้ไฟลามอย่างรวดเร็ว
หลังจากนี้ต้องทบทวนร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลาง ภาครัฐ ในการดูแลหม้อแปลงและสายสื่อสารที่อยู่ด้านนอก ซึ่ง กทม.มีนโยบายที่จะตัดสายที่ไม่ได้ใช้งานทิ้ง เพราะอาจเป็นตัวที่ทำให้ติดไฟได้
ขณะที่วันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.) ฝ่ายโยธาเขตฯ จะเข้าตรวจสอบอาคาร และสำรวจเรื่องความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างอาคาร เนื่องจากมีอาคารยุบตัว
ผู้ว่าฯ กทม. ระบุอีกว่า สัปดาห์หน้า กทม. จะหารือร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง ทั้งเรื่องไฟแสงสว่าง ความปลอดภัยบนท้องถนน รวมถึงเรื่องความปลอดภัยของหม้อแปลงไฟ และสายสื่อสารที่อยู่รวมกับเสาไฟฟ้า ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนราคาแพงที่ต้องเอาไปปรับปรุง ถือเป็นหน้าที่การไฟฟ้าต้องช่วยดูด้วย เพราะเป็นความรับผิดชอบโดยตรง
อย่างไรก็ตาม กทม.และการไฟฟ้านครหลวงจะต้องประสานงานกันอย่างเข้มข้นและใกล้ชิด และทุกเขตจะต้องสำรวจจุดเสี่ยงอื่นๆ พร้อมขอให้ประชาชนที่พบเห็นจุดเสี่ยงแจ้งผ่านแพลตฟอร์ม Traffy Fondue
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกิดไฟไหม้ย่านสำเพ็ง จนท.เร่งควบคุมเพลิง
ไฟไหม้ตึกแถวย่านสำเพ็ง เสียชีวิต 2 เจ็บ 6 คน วอดหลายคูหา
ผู้ว่าฯ กทม.เร่งประเมินจุดเสี่ยง-ระบบกันไฟในกรุงเทพฯ