วันนี้ (5 ก.ค.2565) ไทยพีบีเอส ลงพื้นที่สำรวจพบว่าผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวซบเซามาแล้ว 2 ปี ส่งผลให้โรงแรมขนาดเล็กกว่า 10 แห่ง ติดป้ายประกาศขายกิจการโดยบริษัทบริหารสินทรัพย์ของสถาบันการเงิน โดยเฉพาะใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
นายมโนสิทธิ์ แจ้งจบ รักษาการนายกสมาคมที่พักบูติก จ.ภูเก็ต กล่าวว่า โรงแรมขนาดเล็กไม่ได้เข้าร่วมโครงการของรัฐบาล ทั้งโครงการเที่ยวด้วยกัน และเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 1% ซึ่งทุกแห่งมีสรรพากรมาเก็บไป ไม่ใช่หาบเร่แผงลอย ทุกคนต้องจ่ายภาษี แต่ตอนนี้ภาษีไม่ตกถึงเรา เพราะหาว่าไม่มีใบอนุญาต
ขณะที่ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก จ.ภูเก็ต บอกว่า บอกว่า ที่ผ่านมาพยายามทำทุกวิถีทางที่จะหารายได้มาพยุงธุรกิจ แต่ก็ทำได้ค่อนข้างยาก เพราะเราพึ่งนักท่องเที่ยวเป็นหลัก เมื่อรัฐบาลออกนโยบายมาช่วยเหลือ แต่พอไม่ยื่นเอกสารก็ไม่สามารถทำได้ ติดขัดในเรื่องของเงื่อนไขที่จะต้องเป็นโรงแรมที่ได้รับอนุญาต
ถ้าไปกู้เงิน และต้องมีใบทดแทนใบ ม.44 ได้ก็จะได้รับอนุมัติให้กู้เงิน ยอมรับว่าเดือดร้อนหลายอย่างไม่มีลูกค้ามาก ไม่พอค่าใช้จ่าย
ทำให้ต้องค้างจ่ายทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยกับสถาบันการเงินเจ้าของเงินกู้ จนต้องยอมให้มีการบังคับคดี ก่อนที่จะถูกประกาศขายในที่สุด เพราะติดเงื่อนไขข้อกฎหมายทำให้ไม่สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือตามมาตรการของรัฐได้หรือการกู้เพิ่มเติมได้ แม้ว่าการท่องเที่ยวจะเริ่มดีขึ้นก็ตาม
ข้อมูลที่ตรวจสอบจากกรมบังคับคดีในพื้นที่ภูเก็ตมีที่ดิน-สิ่งปลูกสร้าง รวมทุกประเภทที่ถูกบังคับคดีไปแล้วจำนวน 1,696 แห่ง ขณะที่ข้อมูลของสมาคมที่พักบูติก จ.ภูเก็ต มีโรงแรมขนาดเล็กในพื้นที่ถูกบังคับคดีไปแล้วจำนวน 200 แห่ง และถูกยึดไปแล้วจำนวน 11 แห่ง ส่วนที่เหลือก็รอถูกดำเนินการ