เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2565 พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ใช้เวลาตามที่ขอไป 2 นาที เพื่อเปิดเพลงทดแทนคำชี้แจงของตนเอง เพลงนี้ชื่อเพลง "กองทัพไทยหัวใจเพื่อประชาชน" เนื้อเพลงระบุถึงการรับใช้ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน
ส่วนประเด็นสำคัญ ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประ มาณ 2566 ซักถามเกี่ยวกับงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ที่ตั้งงบประมาณไว้ จำนวน 197,000 ล้านบาท ก็คือประเด็นการตั้งงบประมาณลับทางราชการ และงบประมาณในการเช่ารถยนต์หรูให้กับผู้บริหารระดับสูงของแต่ละกองทัพ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร รองประธานคณะกรรมาธิการฯ ตั้งคำถามถึงกรณี รถเบนซ์ S 500 ที่นายทหารระดับสูงใช้ ซึ่งกระทรวงกลาโหมชี้แจงว่า ไม่ใช่รถประจำตำแหน่ง แต่เรียกว่า "รถควบคุมการสั่งการ" เป็นรถสมรรถนะสูง ที่ใช้งบปกติจัดซื้อ โดยต้องทำการตกลงกับสำนักงบประมาณเป็นรายการไป
เช่ารถหรูเรียก "รถควบคุมการสั่งการ"
ส่วนอัตราค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนค่ารถประจำตำแหน่งของนายทหาร มีอัตราตามกฎเกณฑ์ของกระทรวงการคลัง คือ พ.อ.พิเศษ 25,400 บาท พล.ต. 31,800 บาท พล.ท.ขึ้นไป 41,000 บาท เป็นอัตราที่จ่ายตามปกติ
กรณีนี้นายสมชัย ตั้งคำถามและขอเอกสารเพิ่มเติม กรณีนายทหารระดับสูงมีรถ 2 คัน คันหนึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งตามสเปกราชการ อีกคันเป็นรถหรู เรียกว่ารถควบคุมการสั่งการ หรือไม่ และมีรถควบคุมสั่งการทั้งหมดจำนวนเท่าใด และจัดซื้อโดยเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณใดบ้าง
ปลัดกลาโหม แจงสตง.ตรวจงบฯลับปีแรก
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตถึงอัตราค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนรถประจำตำแหน่ง ว่าการเทียบตำแหน่งของกองทัพ กับพลเรือน ทำให้กองทัพ มีจำนวนตำแหน่งที่ต้องจ่ายมากกว่ามาก เช่น กระทรวงมีปลัดกระทรวง ได้ 1 คน แต่กองทัพตีเทียบเท่าพล.ท.ขึ้นไป ดังนั้นเท่ากับกองทัพสามารถเบิกในอัตราปลัดกระทรวงได้หลายร้อยคน ถือเป็นความเหลื่อมล้ำในราชการอย่างมาก
พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้นำผู้บัญชาการเหล่าทัพ ชี้แจงภาพรวมการจัดสรรงบประมาณของหน่วยงานภายใต้กำกับดูแล โดยย้ำว่างบประมาณตั้งไว้เกือบ 500 ล้านบาท ไม่ใช่งบประมาณลับ แต่เป็นงบประมาณเพื่อนำไปใช้ในภารกิจงานด้านความมั่นคง-ยาเสพติด และการข่าว โดยในทุก 3 เดือน ต้องแจกแจงการเบิกจ่ายงบประมาณให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับทราบ
ล่าสุดสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กำหนดหลักเกณฑ์ในปี 64 ถึงการตรวจเงินราชการลับ และปี 65 ผู้ว่าฯ สตง.พร้อมคณะเข้ามามาพบแล้วบอกถึงระเบียบดังกล่าว และเริ่มตรวจปีนี้ตามหลักฐานที่ให้ดูได้
อ่านข่าวเพิ่ม "หมอชลน่าน" ย้ำซักฟอกจัดหนักวันแรกพุ่งเป้า "อนุทิน- ศักดิ์สยาม"
นอกจากนี้ ยังแจกแจงถึงการตั้งเป้าลดอัตราตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิของแต่ละเหล่าทัพ ให้ลงเหลือร้อยละ 50 ภายในปี 2570 ขณะที่อัตรากำลังพลที่บรรจุจริงจะลดลงร้อยละ 5 พร้อมระบุถึงการจัดวางอัตรากำลังพล จะต้องยึดโยงตามมาตรฐานแบบตะวันตก แต่ไม่ชัดเจนถึงงบประมาณเพื่อเช่ารถยนต์หรูฯ โดยอ้างอิงแค่รถควบคุมสั่งการทางการสื่อสาร-ยุทธการ
ขณะเดียวกันคณะกรรมาธิการฯ ยังตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการซื้ออากาศยานไร้คนขับ หรือยูเอวี ของกองทัพเรือ กว่า 4,000 ล้านบาท หรือการแก้ปัญหากับโครงการเรือดำน้ำที่ไร้เครื่องยนต์ เช่นเดียวกับการจัดซื้อเครื่องบินรบแบบเอฟ-35 เอ ของกองทัพอากาศ โดยตั้งงบฯ ผูกพันในปี 2566 เกือบ 3,000 ล้านบาท ทั้งที่การจัดซื้อต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ก่อน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“หมอชลน่าน” ชี้หมดเวลา "รัฐบาล 608" อมโรคป่วย-เลิกแบรนด์ประยุทธ์