วันนี้ (22 ก.ค.2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การพิจารณาสถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทย มีการใช้ข้อมูลทั้งจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่เข้ารักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยปอดอักเสบ ใส่ท่อช่วยหายใจ ผู้เสียชีวิต และผู้ติดเชื้อที่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก หรือ Home Isolation
ขณะนี้พบว่า ผู้ป่วยปอดอักเสบใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ กทม.ปริมณฑล และจังหวัดใหญ่ โดยช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา มีการเดินทางไปต่างจังหวัดกันมาก จึงต้องติดตามว่าแนวโน้มจะเป็นอย่างไร
สำหรับหลังช่วงหยุดยาวย้ำว่า ยังต้องเข้มมาตรการ 2U ได้แก่ Universal Prevention มาตรการป้องกันส่วนบุคคล เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ และตรวจ ATK เมื่อมีอาการคล้ายหวัด
ซึ่งโอมิครอน BA.4/BA.5 จุดเด่น คือ เจ็บคอ ระคายคอ น้ำมูก หากมีอาการคล้ายไข้หวัดอย่านิ่งนอนใจ ให้ตรวจ ATK และ Universal Vaccination ฉีดวัคซีน ซึ่งขณะนี้คนไปรับวัคซีนเพิ่มขึ้น
ส่วนหน่วยงานต่างๆ หากพบผู้ติดเชื้อ ถ้ามีอาการน้อยใช้มาตรการ 7+3 วันได้โดยแยกกักตัวที่บ้าน 7 วัน หลังจากนั้นกลับมาทำงานได้ โดยช่วง 3 วันแรก สวมหน้ากากตลอดเวลา งดรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น และเลี่ยงเข้าร่วมกิจกรรมคนจำนวนมาก
ขณะที่ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2,424 คน ผู้ป่วยสะสม 2,347,450 คน (ตั้งแต่ 1 ม.ค.2565) หายป่วยกลับบ้าน 1,816 คน หายป่วยสะสม 2,347,265 คน (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 24,028 คน เสียชีวิต 25 คน เสียชีวิตสะสม 9,400 คน (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565) ผู้ป่วยปอดอักเสบ 868 คน ส่วนผู้รับวัคซีนสะสม จำนวน 140,954,292 โดส
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สธ.เผยเคสชาวไนจีเรียป่วย "ฝีดาษลิง" พบเพื่อนเสี่ยงสูง 2 คน
หายจากโรงแรมภูเก็ต! ชายไนจีเรียติดเชื้อ "ฝีดาษลิง"