วันนี้ (26 ก.ค.2565) ผศ.ดร.ธนพล เพ็ญรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญระดับสูง สำนักบริหารงบประมาณวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยถึงการแพร่ระบาดของ โรคฝีดาษวานร หรือ ฝีดาษลิง ว่า ขณะนี้สหรัฐฯ ได้เริ่มตรวจการระบาดของฝีดาษลิง โดยตรวจเศษซากไวรัสในน้ำเสียโสโครก เป็นตัวชี้วัดการระบาดในระดับชุมชน
1 ตัวอย่างน้ำเสีย แทนการเฝ้าระวังทุกคนทั้งชุมชน
เนื่องจากไวรัสฝีดาษลิงจะถูกขับถ่ายออกมาทางอุจจาระของผู้ติดเชื้อ แม้จะยังไม่แสดงอาการในช่วงระยะฟักตัว 7-14 วัน ทำให้คณะวิจัยตรวจพบเศษซากไวรัสดังกล่าวในน้ำเสียโสโครกของเมือง ซึ่งรวมน้ำเสียจากทุกคนในทุกบ้านเรือนที่ขับถ่ายออกมาได้ โดยจะตรวจพบเศษซากไวรัส 7-14 วัน ก่อนที่ผู้ติดเชื้อจะรู้ตัวว่าตัวเองติดเชื้อและแสดงอาการ ทำให้สามารถควบคุมโรคได้ก่อนการระบาด
เทคนิคเดียวกันนี้ถูกใช้ในการเฝ้าระวังเชิงรุกและเตือนภัยล่วงหน้าการระบาดของโควิด-19 ในชุมชนและอาคารสาธารณะใน 58 ประเทศทั่วโลก
ตรวจหาเศษซากเชื้อ "ฝีดาษลิง" จากน้ำเสีย
สำหรับในประเทศไทย คณะวิจัยระบาดวิทยาน้ำเสียโควิด-19 จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมที่จะใช้เทคโนโลยีการสกัดเศษซากไวรัสฝีดาษลิงในน้ำเสียโสโครกชุมชน เพื่อเฝ้าระวังการนำเข้าฝีดาษลิงจากต่างประเทศเช่นกัน
สำหรับการทดลองนี้ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ผ่านสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งคณะวิจัยได้ทดลองตรวจน้ำเสียจากสนามบินสุวรรณภูมิจากตัวอย่างน้ำเสียในช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา แต่ไม่พบเศษซากไวรัสฝีดาษลิง สอดคล้องกับการรายงานว่ายังไม่พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในประเทศไทย ณ เวลานั้น แม้ว่าจะมีการพบผู้ติดเชื้อแล้วใน 22 ประเทศ
การตรวจไวรัสฝีดาษลิงในน้ำเสียมีความปลอดภัย และไม่มีหลักฐานชี้ว่าสามารถติดฝีดาษลิงจากน้ำเสียได้ เช่นเดียวกับที่ไม่สามารถติดโควิด-19 จากเศษซากไวรัส SARS-CoV-2 ในน้ำเสีย
ดังนั้นการตรวจเศษซากไวรัสฝีดาษลิงในน้ำเสียจึงเป็นมาตรการเฝ้าระวังที่ประหยัดงบประมาณ และตรวจพบเชื้อได้ทันทีที่มีผู้ติดเชื้อแม้คนเดียวในชุมชน หรือมีนักท่องเที่ยวติดเชื้อคนเดียวในทั้งสนามบิน
ผศ.ดร.ธนพล กล่าวว่า หลังจากพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงรายแรกในไทย และองค์การอนามัยโลกประกาศให้เชื้อไวรัสฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ หลังพบการระบาดในกว่า 75 ประเทศทั่วโลก
ประเทศไทยจึงต้องเตรียมความพร้อม ต้องเช็กของ คณะวิจัยระบาดวิทยาน้ำเสียโควิด-19 ของพร้อมแล้ว มีประสบการณ์ในการพัฒนาเทคนิคการตรวจเศษซากไวรัส SARS-CoV-2 ในน้ำเสียชุมชนเพื่อชี้เป้าการระบาดในเทศบาล
ทั้งการตรวจในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก เทศบาลนครยะลา และเทศบาลนครนครสวรรค์ ได้ถึง 20 วันล่วงหน้า สำหรับสายพันธุ์เดลตา และ 10 วัน สำหรับสายพันธุ์โอมิครอน ทำให้เทศบาลรู้ตัวไวและสามารถควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสียหายได้ 16 ถึง 40 เท่าตัว
ประหยัด ป้องกันนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศ
ผศ.ดร.ธนพล ระบุว่า ในช่วงที่โควิด-19 เริ่มระบาด ประเทศไทยไม่รู้จักเทคนิคระบาดวิทยาน้ำเสียเพื่อการเตือนภัยล่วงหน้า คณะวิจัยของเราต้องใช้เวลาถึงกว่า 1 ปีครึ่งในการพัฒนาห้องปฏิบัติการและเทคนิคการสกัด
ขณะที่ต่างประเทศสามารถปรับตัวใช้เทคนิคนี้ได้ในระยะเวลา 3-6 เดือน แสดงให้เห็นว่าต่างประเทศมีความพร้อมทางเทคโนโลยีมากกว่า แต่เมื่อเกิดการระบาดของฝีดาษลิง คณะวิจัยของมีความพร้อมและสามารถใช้เทคนิคนี้เฝ้าระวังการระบาดของฝีดาษลิงได้พร้อม ๆ กับที่สหรัฐฯ เริ่มทำ
โรคที่แพร่ระบาดไม่เร็วนักแต่มีอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 1-10 อย่างฝีดาษลิง การตรวจเศษซากไวรัสในน้ำเสียจากสนามบินหรือแหล่งท่องเที่ยว นับเป็นการเฝ้าระวังการระบาดที่สามารถเตือนภัยล่วงหน้าได้และใช้งบประมาณน้อยที่สุด
ดังนั้นการตรวจน้ำเสียจากสนามบินเพื่อลดโอกาสการนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศจึงน่าจะเป็นมาตรการที่สมเหตุผลที่สุดเมื่อไม่สามารถตรวจฝีดาษลิงในนักท่องเที่ยวรายคนทุกคนได้