ความคืบหน้ากรณีพบชายชาวเยอรมันอายุ 25 ปีป่วยฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 2 ของ จ.ภูเก็ต และเป็นรายที่ 3 ของไทย วันนี้ (3 ส.ค.2565) นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต (สสจ.ภูเก็ต) กล่าวว่าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้รับรายงานเมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) ว่า ผู้ป่วยชายชาวเยอรมัน เดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ด้วยอาการมีไข้ มีผื่น และต่อมน้ำเหลืองโต จึงมีการตั้งข้อสงสัยว่าจะเป็นฝีดาษลิง
เนื่องจากเข้าข่ายต้องสงสัย จึงการเก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์บางโจ จ.ภูเก็ตและทราบผลในเวลา 18.00 น. ซึ่งหลังทราบผลทางทีมสอบสวนโรค สสจ.ภูเก็ต ร่วมกับสาธารณสุข อ.เมืองภูเก็ต และโรงพยาบาลได้ลงพื้นที่ เพื่อสอบประวัติผู้ป่วยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เปิดไทม์ไลน์หนุ่มเยอรมัน-ครอบครัวเสี่ยงแฟนสาว 7 คน
นพ.กู้ศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยรายนี้ บินตรงมายัง จ.ภูเก็ตเมื่อวันที่ 18 ก.ค.นี้ และมาพักอาศัยอยู่กับแฟนสาวคนไทย ไม่ได้เป็นกลุ่มรักร่วมเพศ และส่วนใหญ่จะท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวกับแฟนสาว
ต่อมาช่วงวันที่ 23-24 ก.ค.ที่ผ่านมา เริ่มมีอาการไข้ และมีผื่นขึ้นเล็กน้อย ต่อมา วันที่ 30-31 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผื่นมากขึ้น ตามลำดับเริ่ม จากบริเวณอวัยวะเพศก่อนกระจายไปยังข้อมือ แขน ลำตัว และเมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) เข้าโรงพยาบาล เพื่อตรวจรักษาโดยได้เก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจและพบเชื้อ
จากห้วงเวลาของอาการ เชื่อได้ว่าน่าจะมีการติดเชื้อมาจากต่างประเทศ เนื่องจากระยะฟักตัวของเชื้อ 21 วันผู้ป่วยเข้ามายัง จ.ภูเก็ต วันที่ 18 ก.ค. แต่เริ่มมีอาการในวันที่ 23-24 ก.ค.ที่ผ่านมา
อ่านข่าวเพิ่ม เปิดแนวทางรักษา "ฝีดาษลิง" ต้องกักตัวผู้ป่วยสงสัยให้รอผลแล็บ
คาดแฟนสาวรู้ผลฝีดาษลิงพรุ่งนี้ (4 ส.ค.)
นพ.กู้ศักดิ์ กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่ของทีมสอบสวนโรค พบว่าส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ กับแฟนสาว ทำให้มีผู้สัมผัสใกล้ชิดที่สุดคือ แฟนสาวชาวไทย นอกจากนี้ จะเป็นสมาชิกในครอบครัวของแฟนสาวชาวไทยบื้องต้น 7 คน ยังไม่มีอาการ และต้องกักตัว 21 วัน
กลุ่มเสี่ยงแต่จะเพิ่มขึ้นหรือไม่ ต้องมีการสอบสวนโรคไปที่ละขั้นตอน ซึ่งผลการตรวจหาเชื้อของแฟนสาว คาดว่าจะทราบผลพรุ่งนี้ (4 ส.ค.)
สสจ.ภูเก็ต กล่าวอีกว่า ขั้นตอนแรกหลังพบผู้ป่วย ทีมสอบสวนโรคได้สอบสวนโรคเรียบร้อยแล้ว โดยผู้ป่วยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนขั้นตอนที่ 2 การสอบสวนผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย จึงขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะเชื้อของโรคไม่ได้ติดกันง่ายๆ นอกจากสัมผัสโดยตรง และสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับผู้ป่วยในลักษณะเนื้อแนบเนื้อ
โดยทีมแพทย์ สสจ.ภูเก็ต จะฆ่าเชื้อโรคในบ้านพักของผู้ป่วย และผู้ใกล้ชิดพร้อมกับสร้างความมั่นใจ และให้ความรู้แก่พี่น้องประชาชนเกี่ยวกับโรค นอกจากนี้ ที่ผ่านมาทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้มีการตรวจคัดกรองในส่วนของผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ตั้งแต่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต หากพบอาการเข้าข่ายต้องสงสัย ก็จะมีนำตัวตรวจหาเชื้อรวมถึงผู้ที่เข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลของรัฐเอกชน และคลินิกโรคผิวหนัง เพื่อดักจับโรค ก่อนหน้านี้ดำเนินการมาแล้ว 7 คนโดยไม่พบผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยพบ "ฝีดาษลิง" คนที่ 3 เป็นชายเยอรมันที่ภูเก็ต
หายจากโรงแรมภูเก็ต! ชายไนจีเรียติดเชื้อ "ฝีดาษลิง"