ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

นกแอร์เร่งหาสาเหตุเครื่องบินไถล - ยืนยันนักบินปฏิบัติตามมาตรฐานการบิน

เศรษฐกิจ
4 ส.ค. 65
18:06
1,230
Logo Thai PBS
นกแอร์เร่งหาสาเหตุเครื่องบินไถล - ยืนยันนักบินปฏิบัติตามมาตรฐานการบิน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สายการบินนกแอร์ชี้แจงยืนยันว่า นักบินทำเต็มที่แล้วและปฏิบัติตามมาตรฐานการบิน และที่สำคัญไม่มีผู้โดยสารบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนมาตรการเยียวยาผู้โดยสารทำตามที่ กพท.กำหนด

วันนี้ (4 ส.ค.2565) ความคืบหน้ากรณีเที่ยวบินที่ DD108 ทำการบินเส้นทาง ดอนเมือง-เชียงราย ลื่นไถลออกนอกรันเวย์ ที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เวลา 21.06 น. เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา

นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ ยืนยันว่า ผู้โดยสารปลอดภัยทุกคน ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้เนื่องจากอยู่ระหว่างตรวจสอบ พร้อมขออภัย กรณีที่มีการสื่อสารคลาดเคลื่อนกับประชาชนและขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

แต่ขณะนี้ผู้โดยสารทุกคนปลอดภัย เป็นข้อบกพร่องในการสื่อสาร ทางบริษัทต้องขอโทษทุกคน และบริษัทได้มีการจัดเครื่องบินจากสายการบินอื่น ๆ พร้อมรถรับ-ส่ง เพื่อเยียวยาผู้โดยสาร แม้ว่าบริษัทยังอยู่ในระหว่างการฟื้นฟูกิจการ ก็ขอยืนยันว่า จะบริการด้วยความปลอดภัยสูงสุด

ส่วนเครื่องบินที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น จะกระทบต่อฝูงบินของสายการบินนกแอร์หรือไม่นั้น นายวุฒิภูมิ กล่าวว่า ปัจจุบันนกแอร์มีเครื่องบินรวมทั้งหมด 17 ลำ แบ่งเป็น โบอิ้ง 737-800 จำนวน 14 ลำ ขณะนี้เครื่องที่เกิดเหตุได้รับความเสียหายทำให้เหลืออยู่ 13 ลำ

ในจำนวน 13 ลำนี้ มี 2 ลำที่อยู่ระหว่างการนำเครื่องไปซ่อมตามวงรอบที่ต่างประเทศ และจะส่งมอบเครื่องกลับมายังไทยได้ในวันที่ 5 ส.ค.65 จำนวน 1 ลำ และ ในวันที่ 8 ส.ค.2565 อีก 1 ลำ เพื่อนำมาให้บริการต่อไป ส่วนอีก 3 ลำ เป็นเครื่อง Q 400 โดยเครื่องบินของนกแอร์ทั้งหมดมีการบำรุงรักษาตามระยะเวลาอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ในปัจจุบันอายุใช้งานของเครื่องบินนกแอร์ เฉลี่ยอยู่ที่ 8 ปี จากทั่วไปเครื่องบินจะมีอายุใช้งานประมาณ 20 ปี โดยเครื่องบินที่เกิดเหตุ มีอายุการใช้งาน 7 ปี 6 เดือน และเพิ่งนำไปซ่อมบำรุงมาเมื่อไม่นานนี้

ส่วนมูลค่าความเสียหายของในการเกิดเหตุในครั้งนี้ในเบื้องต้น พบว่า ล้อเครื่องบินด้านหน้าหักหลังลงจอดรันเวย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายให้ชัดเจน คาดว่าจะสามารถประเมินข้อสรุปได้ภายในประมาณ 1 สัปดาห์

จากนั้นจะดำเนินการซ่อมแซมเครื่องบิน ซึ่งคาดว่าใช้เวลา 2-3 เดือน นอกจากนี้ สายการบินยังเตรียมพิจารณาปรับแผนการบิน คาดว่า จะหาสรุปได้โดยเร็วที่สุด

ด้านนายสุธี จุลชาต ประธานฝ่ายปฏิบัติการสายการบินนกแอร์ ชี้แจงว่า สภาพอากาศรอบสนามบิน ทัศนวิสัยมีฝนตก รันเวย์เปียก

ดังนั้นนักบินจะทำการดับเครื่องยนต์ ปรับความดันในเครื่องบิน ต้องตัดทุกอย่าง ที่อาจทำให้เกิดประกายไฟได้ เพื่อป้องกันการลุกไหม้หรือระเบิด เมื่อปลอดภัยจึงให้ผู้โดยสารลงจากเครื่องเพื่ออพยพด้านข้างให้ปลอดภัยด้วยสไลด์ ทำให้ผู้โดยสารคนสุดท้ายลงจากเครื่องเวลา 19.20 น. ใช้เวลา 39 นาที

ขั้นตอนปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ นักบินจะดับเครื่องยนต์ ทั้งลำไม่มีแสงสว่างยกเว้นห้องนักบินและห้องโดยสาร และให้การลงจากเครื่อง เพื่ออพยพด้านข้างให้ปลอดภัย ทันทีที่เกิดเหตุจะมีรายงานมายังท่าอากาศยานเชียงราย และสำนักงานใหญ่นกแอร์ที่ ยืนยันว่า นักบินทำตามขั้นตอน 39 นาที ที่ผู้โดยสารรออาจจะรู้สึกว่านาน แต่ก็เพื่อความปลอดภัย

ส่วนมาตรการเยียวยา ทำตามขั้นตอนของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และเพิ่มเที่ยวบินให้เฉพาะเหตุการณ์นี้ ส่วนกรณีที่มีผู้โดยสารระบุว่า ไม่ได้รับการเยียวยาทันทีที่เกิดเหตุ แต่สายการบินออกมาระบุว่า มีการดูแลต้องขออภัยหากสื่อสารผิดพลาด

ไม่สามารถบอกได้ว่า ผู้โดยสารได้รับน้ำดื่มทุกคน ส่วนแถลงการณ์ที่ออกมาบอกว่า ดูแลผู้โดยสารได้รับบริการของว่าง ยอมรับว่าไม่มีอาหารว่าง เพราะขณะนั้นร้านค้าปิดหมด แต่ยืนยันว่า มีน้ำดื่มของการท่าฯ อาจจะสื่อสารผิดเล็กน้อยต้องขออภัยด้วย

สำหรับการเยียวยาผู้โดยสาร สามารถเก็บเครดิตบัตรโดยสาร 100 % อายุ 1 ปี ไม่ระบุชื่อ-เส้นทาง เปลี่ยนแจ้งเส้นทาง เปลี่ยนเที่ยวบิน หรือ ขอเงินคืนได้ และมอบบัตรโดยสารฟรี ไม่ระบุชื่อผู้โดยสารเส้นทางจำนวน 1 ที่นั่ง ไป-กลับ รวมมูลค่าการชดเชยประมาณ 1 ล้านกว่าบาท

ทั้งนี้ยืนยันว่า สายการบินจะสามารถทำการบินได้ตามปกติในวันพรุ่งนี้ (5 ส.ค.2565) เมื่อสนามบินเปิด ส่วนเส้นทางเชียงรายยืนยันว่า สายการบินมีฝูงบินเพียงพอ สามารถหมุนเวียนมาให้บริการได้

นายสุธี ยังกล่าวถึงกรณีที่เมื่อเกิดเหตุต้องอพยพผู้โดยสารภายใน 90 วินาทีว่า ในกรณี 90 วินาที เป็นมาตรฐานของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) ได้ทดลองไว้ว่า เป็นเวลาที่ช้าที่สุดที่ผู้โดยสารทุกคนควรอพยพออกจากเครื่องบินในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

แต่ในกรณีดังกล่าว เบื้องต้นกัปตันได้มีการประเมินสถานการณ์ในการเคลื่อนย้ายผู้โดยสารมีความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า นักบินมีประสบการณ์ทางการบินกว่า 15 ปี ขณะที่ นักบินผู้ช่วยมีประสบการณ์โบอิ้ง 737-800 ระยะเวลา 3 ปี

สำหรับการสอบสวนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ เป็นอำนาจของคณะกรรมการสอบสวน กรณีอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยาน ในราชอาณาจักร (AAIC) ซึ่งจะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบกล่องดำ การบันทึกเสียงระหว่างทำการบิน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการเกิดเหตุอย่างละเอียดต่อไป ซึ่งนกแอร์ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้

ขณะที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า จากการตรวจสอบความคืบหน้าล่าสุด จากท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ทราบว่า ขณะนี้การเคลื่อนย้ายอากาศยาน ออกจากทางวิ่งใกล้จะเรียบร้อยแล้ว รวมถึงเริ่มทำการซ่อมแซมปรับปรุงพื้นที่ด้านข้างทางวิ่ง (Runway Strip) ที่เสียหายไปพร้อมกันในพื้นที่อากาศยานพ้นออกไปแล้ว

และเคลื่อนย้ายเศษซากวัสดุที่จะเป็นอันตราย (FOD: Foreign Object Debris) ทำความสะอาดไปพร้อมกันในพื้นที่ที่เข้าไปทำได้ และจะทำจนแล้วเสร็จในคืนนี้

จากนั้นจะเริ่มซ่อมแซมเครื่องช่วยเดินอากาศประเภททัศนวิสัย (Visual aids) ให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้ รวมถึง กพท.จะตรวจสอบพื้นผิวทางวิ่ง (Friction test) ในคืนนี้ (4 ส.ค.2565) ให้แล้วเสร็จ หากทุกอย่างได้ตามมาตรฐาน คาดว่าจะเปิดใช้งานได้ในวันพรุ่งนี้ ( 5 ส.ค.2565)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง