หลังเกิดเหตุการณ์ยิงปะทะกันจนมีผู้เสียชีวิตและเสียชีวิตหลายคนที่ จ.อุบลราชธานี และเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิงในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทำให้หลายจังหวัดตื่นตัวในการตรวจสอบสถานบันเทิงเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำรอย
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างตรวจเส้นทางจราจรที่เขตคลองสามวา เมื่อช่วงเช้า หลังจากสั่งการให้ไปตรวจสอบความปลอดภัยของสถานบันเทิงทั่ว กทม. ตั้งแต่เกิดเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิงที่สีลมซอย 2 เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ขณะนี้มีรายงานเข้ามาแล้ว 400 แห่ง ในจำนวนนี้มี 83 แห่งที่พบปัญหาความเสี่ยงและ 3 แห่งมีปัญหาทางหนีไฟ ซึ่งได้สั่งการให้หยุดให้บริการและปรับปรุงไปแล้ว
ขณะที่ จ.พิษณุโลก ชุดจัดระเบียบสังคมจังหวัดพิษณุโลก นำโดยนายนิสิต สวัสดิเทพ นายอำเภอเมืองพิษณุโลก ร่วมกับ ทหารมณฑลทหารบกที่ 39 สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ตำรวจ และชุดปฏิบัติการพิเศษ ตรวจสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ 11 แห่ง ในพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก
เจ้าหน้าที่กำชับเรื่องการพกพาอาวุธปืนและให้ตรวจสอบระบบความปลอดภัยของสถานที่ เช่น ป้ายบอกทางหนีไฟ ประตูหนีไฟ การติดตั้งถังดับเพลิง ให้พร้อมใช้งานและตรวจอุปกรณ์ประกอบการแสดงที่อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้
ส่วนที่ จ.เชียงราย มีการตรวจสอบสถานบริการและสถานบันเทิง 6 แห่ง เพื่อกำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัย และป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย เบื้องต้นพบว่า มีการติดตั้งประตูทางเข้า-ออก ประตูหนีไฟ และอุปกรณ์ดับเพลิงครบ
จ.สระแก้ว มีการตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อย สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ร้านอาหารที่มีการแสดงดนตรีสด แหล่งมั่วสุม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยสถานบันเทิงในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในช่วงคืนที่ผ่านมา
พบว่า สถานประกอบการมีใบอนุญาตเอกสารถูกต้องครบถ้วน มีการตรวจบัตรผู้เข้ารับบริการ เพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนเข้ามาใช้บริการ ตรวจความพร้อมและความปลอดภัยของสถานที่
พร้อมกำชับให้ผู้ประกอบการเปิด - ปิดร้านตามเวลาที่กฎหมายกำหนดและให้ปฏิบัติตามกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสุ่มตรวจรถยนต์และผู้เข้ารับบริการ เพื่อป้องกันการพกพาอาวุธปืนมาก่อเหตุทะเลาะวิวาท พบว่า มีการนำพาอาวุธปืนมาระหว่างเที่ยวสถานบันเทิงโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 1 คน จึงได้จับกุมและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเย็น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป