วันนี้ (17 ส.ค.65 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าด้วยการใช้ทรัพยากรหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง พ.ศ.2563 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 16 ส.ค.2565 เป็นต้นมา
ระเบียบดังกล่าว เป็นการกำหนดเงื่อนไข การทำหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีรักษาการ ระหว่าง ที่อายุสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง หรือมีการยุบสภาเพื่อให้เกิดความเสมอภาคและโอกาสทัดเทียมในการเลือกตั้ง สาระสำคัญมี 6 ข้อ เป็นการกำหนดเงื่อนไขไม่ให้คณะรัฐมนตรีระหว่างรักษาการใช้ทรัพยากรของรัฐ หรือบุคลากรของรัฐ ที่มีผลต่อการเลือกตั้ง
เช่น ห้ามจัดประชุม ครม.สัญจรนอกสถานที่ ห้ามใช้งบประมาณของรัฐ ในการจัดประชุม อบรม บุคลากรของรัฐหรือเอกชน ห้ามสั่งการหรือมอบหมายให้มีการอนุมัติ เกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานรัฐ ห้ามสั่งการหรือมอบหมายให้มีการแจกจ่าย จัดสรรทรัพยากรของรัฐ โดยไม่มีเหตุอันควร
รวมถึงห้ามใช้พัสดุหรือเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากหน่วยงานของรัฐ ห้ามใช้ทรัพยากรของรัฐ เช่น คลื่นความถี่ อุปกรณ์ในการส่งวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม และห้ามใช้งบประมาณด้านการประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานรัฐ กรณีระเบียบไม่ได้กำหนดไว้หรือมีเหตุจำเป็น กกต.อาจกำหนดข้อยกเว้นหรือผ่อนผันการปฏิบัติตามความในระเบียบได้
ทั้งนี้ระเบียบดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่เคยมีใช้บังคับมาตั้งแต่ปี 51 แต่เนื่องจากมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 จึงได้มีการยกร่างระเบียบขึ้นใหม่ ให้สอดคล้อง
เป็นที่น่าสังเกตว่าระเบียบดังกล่าว นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.มีการลงนามตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.2563 แต่กลับเพิ่งมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวทางการเมืองว่ารัฐบาลอาจมีการยุบสภาเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากปัญหาเรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ยังมีรายงานด้วยว่า สำนักงาน กกต.ได้มีการนำส่งระเบียบดังกล่าวส่งไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2563 หลังจากที่ประธาน กกต.ลงนามแล้วไม่นาน แต่ทางสำนักนายกรัฐมนตรีพึ่งนำระเบียบดังกล่าวประกาศฯ โดยในวันนี้ สำนักงาน กกต.ก็ได้มีการจัดประชุมผู้อำนวยการการเลือกตั้งทั่วประเทศที่ จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะครบวาระในเดือน มี.ค.2566