วันนี้ (26 ส.ค.2565) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วยตัวแทนผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และตัวแทนผู้บริหาร สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ร่วมหารือแนวทางการป้องกันระงับเหตุ หลังจากที่เมื่อวานนี้ นักศึกษาของทั้งสองสถาบันฯ ร่วมกันก่อเหตุทะเลาะวิวาทที่บริเวณอาคารกีฬานิมิบุตร ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน
ผบช.น. เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับความร่วมมือจากอาจารย์จากทั้ง 2 สถาบัน โดยเฉพาะมาตรการแนวทางการดูแลป้องกันเหตุหลังจากนี้ โดยได้รับแจ้งจากผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย จะปรับการเรียนการสอนให้เป็นระบบออนไลน์ ส่วนสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน จะเปิดการเรียนการสอนตามปกติที่สถาบัน
นอกจากนี้ ยังมีการทำข้อตกลงร่วมกันกับผู้บริหารสถาบันฯ ทั้งสองแห่งเกี่ยวกับพื้นที่ปลอดภัย หรือ Safe Zone ของแต่ละสถาบัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทะเลาะวิวาทของนักศึกษาทั้ง 2 แห่ง โดยจะมีการตรวจสอบประวัติของนักศึกษาที่เคยก่อเหตุ และตรวจประวัติการรับนักศึกษาใหม่ของแต่ละสถาบัน
พล.ต.ท.สำราญ ยังยืนยันว่า ตำรวจมีการเข้าตรวจค้นอาวุธในสถาบันเป็นประจำ แต่จากนี้จะมีการร่วมกับฝ่ายอาจารย์ของทั้ง 2 สถาบันออกตรวจร่วมกันมากขึ้น โดยยืนยันจะใช้กำลังตำรวจนครบาล 6 กับตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ร่วมปฏิบัติการ
ขณะเดียวกัน ยังยืนยันว่า สาเหตุการทะเลาะวิวาทเมื่อวานนี้เป็นเรื่องของ 2 สถาบัน เกิดจากปัญหาความขัดแย้งต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งข้อมูลเบื้องต้น พบว่า ผู้ร่วมก่อเหตุเป็นนักศึกษาปี 2 มีการชักชวนจากรุ่นพี่ และอดีตนักศึกษาที่จบไปแล้วเป็นแกนนำ โดยตำรวจมีข้อมูลหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายเรียก ผู้ร่วมก่อเหตุฝั่งละ 30 คน โดยอยู่ระหว่างประสานอาจารย์เพื่อนำตัวมาให้ข้อมูลกับตำรวจ
ถกจัดเซฟโซน-เหลื่อมเวลาเรียน แก้ปัญหาวิวาท
ขณะที่ พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า รายละเอียดของการกำหนดพื้นที่ Safe Zone ฝ่ายอาจารย์ทั้ง 2 สถาบันลงความเห็นร่วมกันว่า จะใช้พื้นที่ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ไปจนถึงช่วงบริเวณหน้าสนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย โดยตำรวจจะวางกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบบริเวณนี้ รวมทั้งการนำตารางการเรียนการสอนของ 2 สถาบัน มากำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้นักศึกษาเหลื่อมเวลาเรียนห่างกันไป ป้องกันการรวมตัว
ส่วนการดำเนินคดี ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้ร่วมก่อเหตุ เบื้องต้น เข้าข่ายความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 ขึ้นไป กระทำการเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง รวมถึงความผิดเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ออกจากโรงพยาบาลไปแล้วเหลืออีก 1 คนยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
พ.ต.อ.พันษา ยืนยันว่า หลังเกิดเหตุแม้จะควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้ แต่ตำรวจยังมีการเข้าตรวจค้นทั้ง 2 สถาบันเมื่อคืนนี้ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งผู้บริหารทั้ง 2 สถาบัน ให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี โดยขอให้ตำรวจดำเนินคดี หากพบตัวผู้กระทำความผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.เร่งตามตัว นักศึกษาย่านปทุมวัน ยกพวกทะเลาะวิวาท เจ็บ 2 คน