กรณีเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ สนธิกำลังฝ่ายปกครอง และตำรวจกว่า 200 นาย ประชุมหารือที่โครงการหลวงหนองหอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนที่พัก และรีสอร์ต 5 แห่งบนดอยม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ แต่ชาวบ้านเครือข่ายสิ่งล้อมม้ง 12 หมู่บ้าน ยื่นหนังสือให้ชะลอการรื้อถอนจนกว่าจะมีคำตัดสินในชั้นศาล
วันนี้ (29 ส.ค.2565) นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นขอให้เจ้าหน้าที่ปรับแผนการเข้ารื้อถอนรีสอร์ตก่อน เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านเอง ไม่อยากให้เกิดปัญหามวลชน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งต้องดำเนินการ เพราะดอยม่อนแจ่ม ไม่ใช่สมบัติของคนใดคนหนึ่ง ทุกคนแต่ต้องอยู่ใต้ระเบียบกฎหมายเดียวกัน
ตามแผนจะมีการรื้อรีสอร์ตเพิ่ม 5 แห่งจากที่เคยมีการตรวจยึดจับกุมและส่งเรื่องให้ตำรวจดำเนินคดีแล้วตั้งแต่ปี 2563 เป็นไปตามขั้นตอนเป็นการเข้าไปรื้อถอนตามมาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าไม้

รองอธิบดีกรมป่าไม้ ยืนยันว่าก่อนเข้าดำเนินการตั้งแต่ตรวจยึด จับกุมมีการปฏิบัติตามขั้นตอนในรีสอร์ตที่ถูกตรวจสอบทุกแห่ง มีการทำความเข้าใจ และตรวจสอบพิกัด การครอบครองเป็นรายพื้นที่ ซึ่งบางแห่งต้องยอมรับว่ามีทั้งการซื้อขายเปลี่ยนมือ ครอบครองพื้นที่ไม่ได้รับอนุญาต ขยายการใช้พื้นที่ ซึ่งกรมป่าไม้มีการตรวจสอบไว้ทุกแปลง
มีการทำเข้าใจตั้งแต่ตอนไปจับกุม มีการให้เวลาอุทธรณ์ ติดป้ายรื้อถอน พูดคุยกับเจ้าของที่ถูกดำเนินคดี และมีฝ่ายปกครองเข้าพื้นที่ด้วย แต่หลายแห่งที่มีการต่อต้านลักษณะเดียวกัน เช่น ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ และอีกหลายแห่งในเชียงใหม่ เชียงราย
อ่านข่าวเพิ่ม ขีดเส้น 3 เดือน จัดระเบียบ "ม่อนแจ่ม"

ยันตรวจสอบพบรุกป่าสงวนฯ-แบ่ง 6 กลุ่ม
ด้านนายสัมพันธ์ พุฒด้วง ผู้อำนวยศูนย์ป่าไม้เชียงใหม่ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบผู้ประกอบการที่เข้าข่ายทำผิดบนดอยม่อนแจ่ม ทั้งพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และพ.ร.บ.กิจการโรงแรม ทั้งหมด 112 แห่ง ในจำนวนนี้พบความผิดรุกป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 36 แห่ง ซึ่งได้ตรวจสอบชัดเจนแล้ว
พบมีการรุกป่า บางส่วนขายสิทธิเปลี่ยนมือให้นายทุน หรือเป็นนอมินีให้นายทุนภายนอก และเปิดให้เจ้าของชี้แจงตามกระบวนการแล้ว จึงต้องรื้อถอนตามมาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าไม้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องหารือ เพื่อลดความขัดแย้งกับชาวบ้าน
สำหรับ 5 รีสอร์ตที่เตรียมแผนจะเข้ารื้อวันนี้ ประกอบด้วย แสงเหนือแคมป์ปิ้ง ม่อนดาวเรือง ม่อนดูดาว ม่อนแสงระวี และหลังสวนโฮมสเตย์
ข้อมูลจากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 กรมป่าไม้ เมื่อปี 2563 ได้แยกปัญหาการบุกรุกรีสอร์ตบนดอยม่อนแจ่ม ออกเป็น 6 กลุ่มดังนี้
- ซื้อขายเปลี่ยนมือ จำนวน 6 รายได้แก่ ม่อนแสนสิริจันทรา ม่อนดอยลอยฟ้า บ้านท่าจันทร์ รีสอร์ต ม่อนพอเพียง และเบสท์แลนด์ (ไม่มีชื่อ 1 ราย)
- ยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 4 ราย ได้แก่ ม่อนใจโฮมสเตย์ รีสอร์ตหม่อนม่วน รีสอร์ตหม่อนจ้อ ไร่นาย
- ครอบครองพื้นที่บุคคลอื่น จำนวน 2 ราย ได้แก่ ม่อนอิงดาว ม่อนไอดิน
- ขยายพื้นที่ครอบครอง จำนวน 9 ราย ได้แก่ ม่อนซาน แสงเหนือแคมป์ปิ้ง ภูเบิกฟ้า แคมป์ไซอิ๋ว ม่อนเหนือ ม่อนเหนือ 2 ระเบียงร้อยดาว มายาแคมปิ้ง ม่อนดูดาว
- เปลี่ยนการครอบครอง จำนวน 4 ราย ได้แก่ หลังสวนโฮมสเตย์ ม่อนดาวเรือง ภูชวนหลวง ม่อนซากุระ
- ครอบครองพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 3 ราย ได้แก่ ม่อนผาสุก บ้านภูหมอก ม่อนแสงระวี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
นับถอยหลังรื้อรีสอร์ตรุก "ม่อนแจ่ม" ดีเดย์ มี.ค.นี้
ลุยรื้อรีสอร์ตดอยม่อนแจ่มรุกป่าสงวนฯ
จัดระเบียบโฮมสเตย์รุกป่า "ดอยม่อนแจ่ม"
เตรียมดำเนินคดีกับผู้ประกอบการ บนดอยม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่