วันนี้ (1 ก.ย.2565) น.ส.ปรางทิพย์ ดาวเรือง นักข่าวอิสระที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย และเป็นสมาชิกเครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ กล่าวถึงปฏิกิริยาของชาวมาเลเซีย หลังศาลตัดสินจำคุก "รอสมาห์ มานซอร์" ภริยาของอดีตนายกรัฐมนตรี "นาจิบ ราซัค" เป็นเวลา 10 ปี ในคดีรับสินบน
น.ส.ปรางทิพย์ ระบุว่า รอสมาห์ มีภาพพจน์ที่ไม่ดีมาตลอด เธอได้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยการคดโกง ใช้ประโยชน์จากอำนาจ ฟุ่มเฟือย และโลภมาก ภาพพจน์ของเธอแย่มากขึ้นจากคลิปเสียงที่รัฐบาลมหาเธร์ นำมาเปิดเผย เป็นคลิปเสียง รอสมาห์ สั่งการให้นาจิบ จัดการกองทุน 1MDB ด้วยน้ำเสียงที่กราดเกรี้ยวว่า
ขอแนะอะไรหน่อยได้ไหมที่รัก เธอเป็นนายกฯ นะ ทำไมต้องให้คนอื่นมานำเธอด้วย เธอต้องเป็นผู้นำ ต้องแก้ปัญหา
ดังนั้น คำตัดสินของศาลวันนี้ มีชาวมาเลเซียดีใจ ไม่มีใครออกมาเรียกร้องหรือประท้วงคำตัดสิน มีเพียงทนายที่จะอุทธรณ์และฎีกาเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม : ย้อนชีวิตบนกองแบรนด์เนมของ "อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งมาเลเซีย"
น.ส.ปรางทิพย์ กล่าวว่า วันนี้ รอสมาห์ ไม่ได้พูดอะไรที่ทำให้ประชาชนเห็นใจ แต่พูดว่าเรื่องแบบนี้อาจจะเกิดขึ้นกับลูกหลานของคุณในอนาคตก็ได้ ถือเป็นประโยคที่เป็นผิดจังหวะในช่วงเวลานี้
รอสมาห์ เป็นจุดอ่อนของราจิบมาตั้งแต่ต้น และเธอดึงภาพพจน์ของนาจิบให้ตกต่ำตั้งแต่ต้น
ระบบยุติธรรม-การเมืองมาเลเซีย
น.ส.ปรางทิพย์ เปิดเผยว่า ในอดีตระบบยุติธรรมของมาเลเซีย ถูกมหาเธร์จัดการอย่างราบคาบ ในช่วงที่เขาอยู่ในพรรคอัมโน และเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจมาก สิ่งที่เป็นเรื่องแตกหักของระบบยุติธรรมคือ ผู้พิพากษาสูงสุดได้ตัดสินว่าพรรคอัมโนผิดกฎหมาย มหาเธร์จึงใช้วิธีปลดออกจากตำแหน่ง แล้วแต่งตั้งคนของตัวเองเข้ามาใหม่ และในเวลานี้ผู้พิพากษาสูงสุดและผู้พิพากษาศาลอื่น ๆ ได้รับการแต่งตั้งแทบทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตามคิดว่า การต่อกรของคณะผู้พิพากษาและระบบศาลที่มีต่อผู้มีอำนาจทางการเมือง อย่าง นาจิบ เป็นตัวสะท้อนความไม่มั่นคงทางการเมืองของมาเลเซีย ในแง่ที่ว่าไม่มีพรรคใดกุมอำนาจสูงสุดเช่นในอดีตอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นจึงมีช่องว่างให้สถาบันอื่น สามารถแสดงความเป็นตัวของตัวเองได้
หลังจากนี้ คาดว่าการเมืองของมาเลเซียจะไม่เป็นเหมือนเดิม ที่มีพรรคเดียวครอบอำนาจสูงสุด สามารถชี้เป็นชี้ตายได้อีก แต่จะเป็นการเมืองที่พรรคการเมืองต่าง ๆ จะต้องต่อรองตลอดเวลา
ไม่ขอฟันธงร้อยเปอร์เซ็นกับการเมืองมาเลเซีย เพราะชอบมีเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นเสมอ