วันนี้ (7 ก.ย.65) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย แถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งว่า เช้านี้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคนัดพิเศษ มีมติเห็นชอบให้เชิญ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาดำรงตำแหน่งประธานพรรคสร้างอนาคตไทย หลังจากนี้ตนจะส่งเทียบเชิญทันที
ส่วนวันพรุ่งนี้นายสมคิด จะเดินทางมาเข้าร่วมประชุมพรรค เพื่อให้แนวทาง ข้อคิด และภาวะของประเทศในปัจจุบัน ให้แก่ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.
ขณะที่การเสนอชื่อนายสมคิด เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น ขอให้รอจังหวะเวลาที่เหมาะสม ค่อยว่ากันอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองเล็กกลัวเดินหน้าต่อไม่ไหว และหันไปควบรวมพรรคกันนั้น นายอุตตม กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทยเริ่มสร้างความเข้มแข็งทั้งคนและนโยบายพรรคมาโดยตลอดตั้งแต่ต้น จึงไม่ได้มองว่าต้องไปรวมกับใคร
เราเดินหน้าด้วยตัวเราเอง และไม่ว่าระบบเลือกตั้งจะเป็นรูปแบบไหนก็พร้อมสู้
ส่วนจำนวน ส.ส.ที่ตั้งเป้าหมายไว้ ขณะนี้กำลังประเมินอยู่ แต่หวังว่าให้มีผลเพียงพอในการเข้าไปทำงาน ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจเสนอตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.มากขึ้นเรื่อย ๆ และอยู่ระหว่างการคัดเลือก
พร้อมยอมรับว่าคะแนน 300,000 กว่าคะแนน ที่จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คนนั้น ถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง แต่ยืนยันว่า มีความพร้อมจึงไม่กังวล เพราะกระแสตอบรับของพรรคก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ
นายอุตตม ยังบอกด้วยว่า นายสมคิดถือเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ของพรรค แต่จะเป็นเซอร์ไพรส์สุดท้ายหรือไม่ ให้รอดู เพราะมีบุคคลสำคัญระดับรองลงมา ก็ให้ความสนใจ ซึ่งพรุ่งนี้ (8 ก.ย.65) อาจจะมาร่วมงานประชุมพรรคด้วย จึงขอให้สื่อมวลชนจับตาดู พร้อมกันนี้ได้นำเอกสารการสมัครสมาชิกพรรคของนายสมคิด มาแสดง ซึ่งสมัครตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา
ด้าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้พรรคการเมืองเก่าและพรรคการเมืองใหม่ ไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะประชาชนมองหาทางออกของประเทศอยู่
พรรคจึงมั่นใจในนโยบายที่นำเสนอตัวเป็นความหวังและทางเลือกใหม่ให้ประชาชน โดยเฉพาะการเข้ามาแก้ไขปัญหาในด้านเศรษฐกิจของประเทศ
พร้อมยอมรับทุกพรรคตั้งความหวังให้ได้ ส.ส.มากที่สุด แต่ผู้ที่ตัดสินใจคือประชาชน
ดังนั้นพรรคจึงตั้งเป้าหมายให้มีขนาดพอที่จะขับเคลื่อนนโยบายแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ ส่วนจำนวนจะแจ้งอีกครั้งเพราะไม่มีใครกำหนดผลการเลือกตั้งล่วงหน้าได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นายสมคิด เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว วันที่ 15 ก.ย.จะไปเดินทางไปพบกับภาคธุรกิจฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต และต่อด้วยพื้นที่ในภาคอีสาน