วันนี้ (7 ก.ย.2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงโรคลีเจียนแนร์ (Legionnaires' disease) ที่มีรายงานการระบาดในอาร์เจนตินา เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ พบผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบ 11 คน เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 8 คน และผู้ป่วย 3 คน ระบาดในสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 4 คน
ต่อมาผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อแบคทีเรีย Legionella pneumophila เป็นเชื้อก่อโรคลีเจียนแนร์ พบได้ในแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีอุณหภูมิ 32-45 องศาเซลเซียส การติดต่อและรับเชื้อเกิดจากการหายใจเอาละอองฝอยของเหลว หรือละอองฝอยของน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อนี้ เช่น น้ำจากหอหล่อเย็นของระบบปรับอากาศ น้ำฝักบัวอาบน้ำ อ่างน้ำวน เครื่องช่วยหายใจ และน้ำพุประดับอาคาร สถานที่ต่างๆ รวมถึงสำลักน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรัง หรือผู้สูบบุหรี่หนัก ทั้งนี้ยังไม่เคยพบการแพร่เชื้อจากคนสู่คน
สถานการณ์โรคลีเจียนแนร์ในไทย ตั้งแต่ปี 2556-ปัจจุบัน พบผู้ป่วยสะสม 131 คน เสียชีวิต 1 คนในปี 2563 พบผู้ป่วยคนล่าสุดเมื่อปี 2564 อายุเฉลี่ย 62 ปี (อายุต่ำสุด 23 ปี และอายุสูงสุด 85 ปี) ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชายวัยกลางคนถึงสูงอายุ และเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า อาการป่วยของโรคนี้แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ อาการเบาไปจนถึงอาการหนัก โดยอาการเบาจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ไอ คลื่นไส้อาเจียน เรียกว่าโรคไข้ปอนเตียก (Pontiac fever)
แต่หากติดเชื้อลงไปที่ปอด ทำให้ปอดอักเสบ มีไข้สูง ไอ หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย และอาจเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิต จะเรียกว่าโรคลีเจียนแนร์ หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมอาจเกิดระบบทางเดินหายใจล้มเหลว
นพ.โอภาส ย้ำว่า โรคลีเจียนแนร์ ไม่ใช่โรคใหม่และไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่าย การแพร่ระบาดมักอยู่ในวงจำกัดเฉพาะผู้ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมเดียวกัน พร้อมแนะนำทุกหน่วยงานหรือสถานประกอบการที่พักนักท่องเที่ยวจัดการระบบคลอรีนในน้ำประปา ตรวจสอบระบบน้ำร้อนรวม ระบบปรับอากาศ อุปกรณ์ในห้องน้ำ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ทำความสะอาดสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์น้ำอย่างสม่ำเสมอ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สธ.อาร์เจนติน่าระบุ โรคปอดอักเสบปริศนา คือโรคลีเจียนแนร์