วันนี้ (8 ก.ย.2565) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2566 จะปฎิรูปโครงสร้างภาษีสินค้า 6 ประเภท คือ การสนับสนุนการนำเอทานอลบริสุทธิ์มาใช้ในการผลิตพลาสติกชีวภาพ (Bio Plastic) การเพิ่มพิกัดภาษีเชื้อเพลิงชีวภาพอากาศยาน (Bio Jet) การปรับโครงสร้างภาษีแบตเตอรี่ที่สามารถรีไซเคิล เบื้องต้นจะดูจากมาตรการยานยนต์อีวี ที่ลดภาษีเหลือร้อยละ 2 จากที่จัดเก็บอยู่ ร้อยละ 8 การเพิ่มพิกัดอัตราภาษีคาร์บอนเครดิต การเพิ่มพิกัดภาษีบุหรี่ไฟฟ้า และการเพิ่มพิกัดภาษีเบียร์ สุรา แอลกอฮอล์ 0%
สำหรับแนวทางการเพิ่มภาษีเบียร์ เนื่องจากพฤติกรรมที่ผ่านมาคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเลือกบริโภคเบียร์ 0% มากขึ้น กรมฯจึงเตรียมกำหนดพิกัดภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 0% ขึ้นมา เนื่องจากปัจจุบันภาษีเบียร์ 0% ยังไม่อยู่ในพิกัดภาษี โดยจะกำหนดอัตราระหว่างภาษีเครื่องดื่มและภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเมื่อพิกัดภาษีมีผลบังคับใช้สุรา เบียร์ ที่มีปริมาณสูงกว่ากำหนดจะต้องเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการลดอัตราการบริโภคและดูแลสุขภาพประชาชน
เช่นเดียวกับ บุหรี่ไฟฟ้า ต้องมีการกำหนดพิกัดอัตราภาษีเพื่อให้สามารถควบคุมปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าลักลอบเป็นการช่วยเหลือสาธารณสุขได้อีกทางหนึ่ง
ส่วนมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล นายเอกนิติ ระบุว่า แม้ว่าจะมีการต่ออายุก็จะไม่กระทบกับการจัดเก็บรายได้ในปี 2565 ซึ่งคาดว่าจะจัดเก็บได้ราว 500,000 ล้านบาท แต่ก็อาจจะกระทบกับปี 2566 คาดว่าจะจัดเก็บได้ 5.67 แสนล้านบาท โดยผลการศึกษากรมสรรพสามิต การลดภาษีน้ำมันดีเซล 1 บาท จะกระทบรายได้หายไป 2,000 ล้านบาท ถ้าลดภาษี 5 บาท ก็จะกระทบ 10,000 ล้านบาท