การสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ส่งผลให้ตำแหน่งประมุขแห่งสหราชอาณาจักรและเครือจักรภพถูกส่งต่อให้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 รัชทายาทอันดับที่ 1 ทันที ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญในราชวงศ์อังกฤษ ในขณะที่กษัตริย์พระองค์ใหม่เต็มไปด้วยความท้าทายไม่น้อย โจทย์สำคัญ คือ การรักษาความนิยมของราชวงศ์อังกฤษ หลังจากเผชิญกับเสียงวิจารณ์หลายเรื่องตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ปี 1948 พระนามเดิม คือ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ฟิลิป อาเธอร์ จอร์จ พระองค์เป็นพระราชโอรสองค์โตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป พระองค์ทรงได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเจ้าชายแห่งเวลส์ หรือมกุฎราชกุมารในปี 1969 เมื่อทรงเจริญพระชนมายุ 21 พรรษา
สำหรับชีวิตส่วนพระองค์ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 พระองค์อภิเษกสมรสกับเลดี ไดอานา สเปนเซอร์ เมื่อเดือน ก.ค.ปี 1981 ทั้งสองพระองค์ทรงมีพระโอรสร่วมกัน 2 พระองค์ คือ เจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ และเจ้าชายแฮร์รี ดยุคแห่งซัสเซกซ์ ต่อมาในปี 1996 ทั้งคู่ทรงหย่าร้างกันอย่างเป็นทางการ ก่อนที่เจ้าหญิงไดอานาจะสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในปีถัดมา ซึ่งพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 อภิเษกสมรสครั้งใหม่กับคามิลลา พาร์คเกอร์ โบลส์ ดัชเชสแห่งคอร์นวอลส์ เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ปี 2005
ขณะที่การก่อตั้งองค์กรการกุศลหลายสิบแห่งเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน กลับเผชิญการตั้งคำถามถึงความโปร่งใส โดยการบริจาคเงินให้องค์กรถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ เพราะบางองค์เสนอช่วยผู้บริจาคให้ได้รับสัญชาติอังกฤษและเครื่องราชอิสริยาภรณ์
เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Sunday Times สื่ออังกฤษ รายงานว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงรับกระเป๋าบรรจุเงินสด มูลค่า 1 ล้านยูโร จากเชคฮามัด บิน จัสซิม บิน จาเบอร์ อัล ทานี อดีตนายกรัฐมนตรีกาตาร์ ด้านพระตำหนักคลาเรนซ์เฮาส์ออกแถลงการณ์ ชี้แจงว่า เงินบริจาคก้อนนี้ถูกโอนเข้าบัญชีองค์กรการกุศลในทันที นอกจากนี้ ยังมีการจัดการที่ชอบด้วยกฎหมายโดยไม่มีข้อบ่งชี้ใด ๆ ว่าเงินบริจาคมูลค่ามหาศาลเป็นเงินผิดกฎหมาย
สำหรับการสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงมีจุดยืนสนับสนุนยูเครนตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าจุดยืนของกษัตริย์พระองค์ใหม่ต่อยูเครนจะสร้างความไม่พอใจให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ตั้งแต่ปี 2014 แต่วันนี้ผู้นำรัสเซียได้ส่งสารให้กำลังใจพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ต่อการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
ผลการสำรวจความนิยมของสมาชิกราชวงศ์อังกฤษที่จัดทำโดย YouGov พบว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ได้รับความนิยมเฉลี่ยร้อยละ 42 พระองค์ทรงได้รับความนิยมในกลุ่ม Baby Boomers ร้อยละ 54 รองลงมา คือกลุ่ม Gen X ร้อยละ 40 และกลุ่ม Gen Y ร้อยละ 34
การขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ของสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ เพราะเจ้าชายวิลเลียม พระราชโอรสพระองค์โตในพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และเจ้าหญิงไดอานา ทรงเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ลำดับที่ 1 ส่วนเจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ และเจ้าชายลูอีส์ พระโอรสธิดา เป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ ลำดับที่ 2 3 และ 4 ตามลำดับ