สนามเลือกตั้ง จ.สุราษฎร์ธานี ที่ใกล้จะมาถึง มีความคึกคักแน่นอน ตั้งแต่วันนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติ จะไปเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บางส่วน
"ไทยรักษาชาติ" ชน "ประชาธิปัตย์"
จากการเลือกตั้งปี 2562 ส.ส.สุราษฎร์ธานี ทั้ง 6 ที่นั่ง เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งหมด โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมขนทัพไปเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 7 คนในวันที่ 24 ก.ย.นี้
สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า เรียกได้ว่า ประกาศแคมเปญ รวมพลังชาวสุราษฎร์ฯ หนุนประชาธิปัตย์ยกทีมได้อีกครั้งหนึ่ง ไล่เรียงว่าที่ผู้สมัคร ที่คาดว่าจะเปิดตัว 1.ภานุ ศรีบุศยกาญจน์ 2.วิวรรธน์ นิลวัชรมณี 3.วชิราภรณ์ กาญจนะ 4.สมชาติ ประดิษฐพร 5. สินิตย์ เลิศไกร 6.ธีรภัทร พริ้งศุลกะ และ 7.ตวงทอง ประดิษฐพร ที่จะลงชิงในอีกเขตที่เพิ่มขึ้นมา
ส่วนคู่แข่งที่เป็นคนคุ้นเคย อย่างพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว (กำนันศักดิ์) นายกฯ อบจ.สุราษฎร์ธานี ที่เดิมเคยมีฐานเสียงของพรรคพลังประชารัฐสนับสนุนและชนะศึกเลือกตั้ง นายก อบจ. เอาชนะ นายชุมพล กาญจนะ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ มา 70,000 คะแนน
นายพงษ์ศักดิ์ ปั้นคนสู้แข่ง ทั้ง 7 เขตในการเลือกตั้งครั้งหน้า 1.อนงค์นาถ จ่าแก้ว ลูกสาว ที่จะลงสู้ศึกในเขต อ.ไชยา ชนกับ ธีรภัทร พริ้งศุลกะ จากพรรคประชาธิปัตย์ นายธานินท์ นวลวัฒน์ สจ.เขตกาญจนดิษฐ์ จะลงชนกับ ตวงทอง ประดิษฐพร ของพรรคประชาธิปัตย์ นายโรจน์พิศาล อินทรักษ์ อดีต สจ.จะลง ชนกับ น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ลูกสาวนายชุมพล กาญจนะ
"รวมไทยสร้างชาติ" เตรียมเปิดตัว ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.
ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่า พรรคฯจะเปิดตัวสาขาพรรคที่ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นสาขาแรก และ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บางส่วน เนื่องจากขณะนี้เขตเลือกตั้งยังไม่ชัดเจน
นายเอกนัฏยังประเมินว่าในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี พรรคฯจะส่งผู้สมัครลงในทุกเขต แต่จะได้ ส.ส.เท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับประชาชนจะตัดสินใจ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีของพรรคเพราะมีทั้ง นายกฯ อบจ., สจ.,นายกเทศมนตรี ซึ่งเป็นผู้นำในระดับท้องถิ่น
ตั้งเป้าคว้า 20 ส.ส.ภาคใต้
ขณะที่พื้นที่ภาคใต้โดยรวมตั้งเป้าว่า มั่นใจในตัวผู้สมัครฯ เนื่องจากหวังจะได้ ส.ส.เขต และในพื้นที่ภาคใต้จะส่งลงทุกเขตและสู้ในทุกเขต โดยอยากได้ 20 ที่นั่งขึ้นและมีความมั่นใจในพื้นที่ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.พัทลุง เพราะทุกคนมีศักยภาพที่จะเอาชนะได้ เพราะแต่ละคนเคยชนะในระดับท้องถิ่นมาแล้วและยังมี ส.ส.อีกจำนวนหนึ่งที่จะมาทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย
ไม่หนักใจชน "ประชาธิปัตย์"
นายเอกนัฏ ยังกล่าวว่า การต่อสู้กับพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้ ไม่มีความหนักใจ เพราะการแข่งขันมีการแพ้-ชนะ เป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องดีที่ประชาชนจะมีทางเลือกว่าจะเลือกแบบใด เพราะแต่ละฝ่ายก็เสนอบุคลากรที่เป็นที่ถูกใจของประชาชนทั้งคู่
ทั้งนี้ในการลงพื้นที่ไม่ได้ตัดหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากพรรคฯได้เปิดรับสมัครสมาชิกมาต่อเนื่อง และเมื่อมีสมาชิกครบ 500 คน จึงเปิดตัวสาขาพรรค และครั้งนี้เป็นสาขาแรกของจังหวัด คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมเป็นหลักพัน ซึ่งตนเองไม่ทราบว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมีการเปิดตัวส ส.ส.ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนี้
พรรคฯหวังที่จะแข่งขันในทั่วพื้นที่ของประเทศ แต่ในพื้นที่ภาคใต้ เป็นพื้นที่ที่ผู้บริหารมีความผูกพันรวมถึงมีเครือข่ายพอสมควร จึงเปิดตัวในภาคใต้ก่อน จากนั้นจะเปิดตัวในภาคอื่น ๆ
"สุเทพ" ทำงานคนละพรรค
นายเอกนัฏ ยังกล่าวถึงนายสุเทพว่า วันนี้พูดตามตรงในทางการเมืองตนเองและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ วันนี้เดินคนละทาง ตนเองมาทำงานในพรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะที่นายสุเทพทำงานกับพรรครวมพลังประชาชาติไทย ทั้ง 2 พรรคไม่ได้เกี่ยวข้องกัน และพรรคฯไม่ได้ทะเลาะกับใคร และส่วนตัวดีกันอยู่แล้ว แต่การตัดสินใจทางการเมืองเป็นเรื่องของการเมือง
มั่นใจว่าที่ผู้สมัครฯมีศักยภาพ
ขณะที่ การแข่งในพื้นที่ภาคใต้ค่อนข้างดุเดือดซึ่งตนเองไม่กังวล เพราะเมื่อมีการแข่งขันประโยชน์อยู่ที่ประชาชน และเป็นความท้าทาย ที่แต่ละพรรคต้องเสนอตัวบุคคลที่เป็นทั้งถูกใจของประชาชนและเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ซึ่งตนเองมั่นใจในตัวผู้สมัครฯ
ขณะนี้ความพร้อมของพรรคฯแม้ว่าจะเป็นพรรคสร้างใหม่ แต่ก็สร้างอย่างมั่นคง หวังเอาชนะในเขตเลือกตั้ง ฉะนั้นต้องรวบรวมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่มีศักยภาพ ที่จะเอาชนะ ในเขตเลือกตั้ง นี่คือหน้าที่ของตนเอง ในฐานะเลขาฯพรรค ในระดับนี้ค่อนข้างมั่นใจ เชื่อว่ามีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่สามารถเอาชนะได้ไม่ต่ำกว่า 40 คนในมือ โดยจะทยอยเปิดตัวว่าที่ ส.ส.ในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป
ในอนาคตจะมีนักการเมือง และนักธุรกิจมาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติแน่นอน
จากนี้หลังเปิดตัวว่าที่ ส.ส.สุราษฎร์ธานี แล้ว นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ จ.ชุมพร และ จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความแข็งแกร่ง ที่จะทยอยเปิดตัวในระยะต่อมา
รวมถึงยังมี จ.ภูเก็ต, จ.นครศรีธรรมราช,จ.ระนอง ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น จ.ปัตตานี, จ.นราธิวาส และ จ.ยะลา จ.สงขลา
จากนั้นจะทยอยเปิดตัวว่าที่ ส.ส.ในพื้นที่ ภาคกลาง เช่น จ.นครปฐม, จ.นนทบุรี, จ.ลพบุรี, จ.สมุทรสาคร, จ.สมุทรสงคราม ไปจนถึงพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง รวมถึงกรุงเทพฯ
