นายกฯสั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรภูมิเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.เพื่อไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ก่อนจะขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ได้ถูกเจ้าหน้าที่สนามบินนาริตะควบคุมตัวเนื่องจากพบว่ามีอาวุธปืนพกในกระเป๋าสัมภาระ และขณะนี้อัยการญี่ปุ่นกำลังจะพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องในข้อหาพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต
กรณีนี้ ทำให้เกิดการตั้งคำถามต่อมาตรการรักษาความปลอดภัยของสนามบินสุวรรณภูมิว่า ได้ทำการตรวจสอบว่าพล.ต.ท.คำรณวิทย์มีอาวุธตั้งแต่ก่อนออกจากประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความเห็นตรงกันว่า ต้องมีการตรวจสอบการเดินทางขาออกจากประเทศไทยว่าได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบที่ถูกต้องหรือไม่
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ พกพาอาวุธปืนผ่านด่านตรวจที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิออกนอกประเทศไปได้โดยได้มอบหมายให้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รับไปดำเนินการให้แล้วเสร็จ และในเรื่องนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานจากทางการประเทศญี่ปุ่นในเรื่องของคดีความ แต่ส่วนตัวเชื่อว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ไม่ได้ตั้งใจที่จะพกพาอาวุธปืนขึ้นเครื่องบิน ซึ่งคดีนี้ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศญี่ปุ่น โดยกองการต่างประเทศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมให้ความช่วยเหลือ หากได้รับการประสานจากพล.ต.ท.คำรณวิทย์
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ยืนยันว่า การเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ได้ผ่านการตรวจโดยเครื่องเอกซเรย์ ส่วนกระเป๋าเดินทางผ่านการตรวจจากเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และตรวจผ่านเครื่องซีทีเอ็กซ์แต่ไม่พบว่ามีอาวุธ
ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ (ทอท.) ยอมรับว่า ขณะเดินทางออกนอกประเทศ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ผ่านช่องทางพิเศษ แต่ขั้นตอนและอุปกรณ์การตรวจร่างกายและสัมภาระจะเหมือนกับช่องทางปกติทั่วไป เพราะช่องทางพิเศษจะอำนวยความสะดวกในเรื่องของการตรวจค้นที่แยกออกมาเฉพาะเท่านั้น ทั้งนี้ ทอท. จะชี้แจงขั้นตอนการตรวจสอบและมาตรฐานความปลอดภัยให้ได้รับทราบอีกครั้งในวันนี้่ (25 มิ.ย.) เวลา 15.00 น.
ส่วนความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่า ตำรวจญี่ปุ่นได้นำสำนวนคดีส่งให้พนักงานอัยการญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งอัยการได้นัดให้ทนายความของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เข้าชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ในช่วงเช้าวันนี้ (25 มิ.ย.)
ขณะนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ยังอยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจ สถานีตำรวจชิบะ โดยกรณีนี้ พนักงานอัยการ มีเวลาในการพิจารณาสำนวนคดีได้ภายใน 20 วัน ก่อนจะมีความเห็นว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่
ด้านพล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ เปิดเผยว่า การประสานให้ประเทศญี่ปุ่นปล่อยตัวเป็นไปได้ยาก เนื่องจากต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของญี่ปุ่น ส่วนแนวทางการให้ความช่วยเหลือ ขณะนี้ทำได้เพียงประสานทางการทูต และยืนยันทางเอกสารว่าเคยดำรงตำแหน่งอดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจริง
หากกรณีนี้ศาลประเทศญี่ปุ่นตัดสินว่ามีความผิดจริงตามขั้นตอนของกฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องการประสานขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะต้องรับโทษ 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น ก่อนประสานส่งตัวกลับมายังประเทศไทยได้