ประเทศไทยลดภาษีมูลค่าเพิ่มจากร้อยละ 10 มาอยู่ที่ร้อยละ 7 นับจากปี 2540 จนเกิดแนวคิดการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 2 อัตรา แบ่งเป็นสินค้าและบริการทั่วไป เก็บอัตราร้อยละ 7 และสินค้าฟุ่มเฟือย เก็บอัตราที่สูงกว่าร้อยละ 7 (เพดานสูงสุดร้อยละ 10)
วันที่ 26 ก.ย.2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ระบุว่า กฎหมายที่มีอยู่สามารถทำได้ และหลายประเทศเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าฟุ่มเฟือยแพงกว่าสินค้าทั่วไป แต่สำหรับประเทศไทย
ขณะนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม หลังภาพรวมยอดจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2565 เป็นไปตามเป้าหมาย
รายงานจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า การปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าฟุ่มเฟือย มากกว่าร้อยละ 7 เป็นส่วนหนึ่งในแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษี เพื่อรองรับรายจ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น โดยภาษีมูลค่าเพิ่มทุกๆ ร้อยละ 1 จะเพิ่มรายได้ให้รัฐไม่น้อยกว่า 100,000 ล้านบาท
ขณะที่กรมศุลกากร รายงานยอดจัดเก็บอากรขาเข้ากระเป๋าและสินค้าฟุ่มเฟือย เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นร้อยละ 94 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ส่วนหนึ่งคาดว่าเป็นผลจากค่าเงินและกำลังซื้อกลุ่มผู้มีรายได้สูง
อ่านข่าวอื่นๆ
เอกชนชี้ "เงินบาทอ่อน" ไม่กระทบแข่งขัน แนะรับมือดอกเบี้ยขาขึ้น
แผงขายอาหารเจลดลง เหตุต้นทุนสูง-เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น