วันนี้ (27 ก.ย.2565) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง คดีหมายเลขดำที่ อท.30/2564 กรณีบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC เป็นเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นจำเลยที่ 1 และพวกรวม 7 คน ซึ่งเป็นคณะกรรมการ ม.36 ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
โดยศาลชั้นต้นได้พิจารณายกฟ้องคดีดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์โดยกำหนดสัดส่วนการให้คะแนนด้านเทคนิคเป็นร้อยละ 30 ด้านการลงทุนและผลตอบแทนเป็นร้อยละ 70 เป็นการใช้ดุลพินิจพิจารณาแก้ไขหลักเกณฑ์การประเมินข้อเสนอใหม่ และการประกาศยกเลิกประกาศเชิญชวนฯ และยกเลิกการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ ตามมติคณะกรรมการคัดเลือกไม่มีพฤติกรรมใดที่แสดงว่า จำเลยที่ 1 มีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์หรือเป็นการเลือกปฏิบัติ
นอกจากนี้ การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ได้รับทราบในเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารประกาศประกวดราคา (RFP) ที่ รฟม.ระบุถึงข้อสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขรายละเอียด RFP รวมทั้งสามารถขยายวันรับข้อเสนอได้ และโจทก์ได้เข้าซื้อซองเอกสาร RFP โดยไม่ได้มีข้อโต้แย้ง แสดงให้เห็นว่าโจทก์ทราบดีถึงข้อกำหนดในการสงวนสิทธิ์ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์
โดยเห็นว่า คำฟ้องของโจทก์ยังไม่มีพยานหลักฐานไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังได้ว่า การแก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ยื่นข้อเสนอรายใดรายหนึ่ง และขณะที่ลงมติเห็นชอบยังไม่ถึงกำหนดระยะเวลายื่นซองข้อเสนอจึงไม่ทำให้ผู้ยื่นเอกสารข้อเสนอได้เปรียบเสียเปรียบ และยังได้ขยายระยะเวลาออกจากกำหนดยื่นข้อเสนอเดิมอีก 45 วัน เพื่อให้ผู้ยื่นข้อเสนอมีเวลาจัดเตรียมข้อมูลจึงพิพาษายกฟ้อง
ด้านนายธงชัย ทองเศรษฐ หัวหน้าคณะทนายความบีทีเอส เปิดเผยว่า บีทีเอสได้ฟ้องหลายข้อหาโดยละเอียด ส่วนที่ศาลพิพากษาบางประเด็นทีมกฎหมายพิจารณาว่ายังไม่เห็นด้วยในข้อกฎหมาย หลังจากนี้จะกลับไปหาข้อมูลเพิ่มเติมและจะเดินหน้าอุทธรณ์ต่อซึ่งสามารถทำได้ภายใน 1 เดือน พร้อมระบุว่า บีทีเอสยังเชื่อมั่นในส่วนของพยานหลักฐาน และเรื่องนี้ยังมีอีกหลายแง่มุมที่ยังไม่ได้ข้อยุติที่ยอมรับได้