หลังกลายเป็นกระแส เมื่อนายกรัฐมนตรี แนะนำให้ประชาชนเตรียมแผนรับมือภัยพิบัติ ด้วยการใช้วิทยุ จากการสำรวจร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าใน จ.นครราชสีมา พบว่า ปัจจุบันวิทยุทรานซิสเตอร์ยังคงได้รับความนิยม โดยมีลูกค้าซื้อต่อเนื่อง
นายจิน เซ็ง เจ้าของร้านจำหน่ายวิทยุทรานซิสเตอร์หลากหลายยี่ห้อ เล่าว่า ร้านของตนเองขายปลีกและขายส่งวิทยุทรานซิสเตอร์มานานกว่า 30 ปีแล้ว เมื่อก่อนนี้วิทยุทรานซิสเตอร์ จะได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะรุ่นในตำนาน TF-268 สีดำๆ ที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตา เพราะสามารถรับฟังคลื่นวิทยุได้ 2 ระบบ คือ FM และ AM
โดยชาวบ้านจะซื้อไปฟังเพลง ฟังข่าว ตามไร่นาได้อย่างสะดวกสบาย เนื่องจากมีน้ำหนักเบา และคงทน แต่ปัจจุบันยุคสมัยเปลี่ยนไป วิทยุก็มีรุ่นใหม่ๆ เข้ามามากมายหลายยี่ห้อ โดยเฉพาะสินค้าจากจีนเข้ามาบุกตลาดไทยมากขึ้น ประกอบกับมีโทรศัพท์มือถือ ก็ทำให้วิทยุทรานซิสเตอร์ขายได้น้อยลง จะเหลือก็เพียงลูกค้ากลุ่มเกษตรกรในต่างอำเภอเท่านั้น
แต่ก็ยังถือว่ามีความต้องการของตลาดอยู่ เพราะจะมีคนมาถามซื้อต่อเนื่อง ตอนนี้ที่ร้านขายเครื่องละ 290 บาท และมีคนซื้อไปจนเหลือในสต็อกแค่ 10 เครื่องเท่านั้น
ลูกค้ารายหนึ่ง บอกว่า ตนเองเปิดร้านขายของอยู่ในพื้นที่ อ.ขามทะเลสอ ซึ่งนอกจากจะขายเครื่องใช้อุปโภคบริโภคแล้ว ก็ยังรับวิทยุทรานซิสเตอร์ไปวางขายในร้านด้วย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่เป็นชาวไร่ ชาวนา มักจะนิยมซื้อไปใช้
สำหรับกระแสการพูดถึงวิทยุทรานซิสเตอร์ที่กลับมาอีกครั้ง เกิดจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวช่วงหนึ่งในระหว่างประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
ในกรณีที่เกิดปัญหาฉุกเฉินระบบการสื่อสารล่ม หน่วยงานราชการต่างๆ แจ้งข้อมูลให้ประชาชนทราบได้ยากลำบาก อาจจะต้องใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ในการออกอากาศแจ้งเตือนประชาชน เหมือนกรณีน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ที่ไฟฟ้าดับ และใช้การสื่อสารแจ้งเตือนประชาชนผ่านวิทยุแทน