วันนี้ (6 ต.ค.2565) กิจกรรมรำลึก 46 ปี 6 ตุลา 2519 ณ ลานประติมากรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันนี้ มีพิธีสงฆ์ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 19 รูป ผู้ร่วมงานยืนไว้อาลัยกับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยมีผู้แทนจากองค์กรต่างๆ ร่วมพิธีวางพวงมาลาและดอกไม้
ซึ่งวันนี้มีบุคคลเข้าร่วมกิจกรรม อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และตัวแทนจากพรรคการเมือง กลุ่มนักเคลื่อนไหว และนักศึกษา
กลุ่มราษฎร แถลงประกาศแนวทางเคลื่อนไหว 6 ตุลา สานต่อการต่อสู้
กลุ่มราษฎร นำโดย น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ร่วมกันแถลงประกาศแนวทางเคลื่อนไหว 6 ตุลา สานต่อการต่อสู้ หลังจากนี้ 7 เดือนก่อนครบวาระสภา และอายุรัฐบาล
และระยะเวลาที่เหลือไม่เกิน 7 เดือน ราษฎร จึงเรียกร้องให้ยุบสภา คืนอำนาจประชาชนโดยเร็วทันที โดยมีองค์ประกอบ 3 ข้อคือศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องรีบวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับเลือกตั้ง ให้กฎหมายเลือกตั้งชัดเจน เพื่อบังคับใช้โดยเร็ว
กกต. ต้องออกกติกาให้ชัดว่าผู้สมัคร ทำหรือไม่ทำอะไรได้บ้าง ต้องประกาศแบ่งเขตโดยเร็ว รวมถึงสูตรคำนวณที่นั่ง ส.ส. ให้ประชาชนติดตาม การเลือกตั้งกำหนดวิธีการเลือกตั้งที่โปร่งใส และเปิดเผยรายหน่วยด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
และให้คณะรัฐมนตรี เร่งให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมโดยเร็ว และประกาศยุบสภา เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง
ซึ่งหากไม่ทำ จะเดินหน้าเรียกร้องให้ทุกพรรคกดดันให้ยุบสภา และเรียกร้อง กกต.ให้เตรียมจัดเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ซึ่งประชาชนจะต้องเลือกผู้สมัครจากพรรคฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้มากที่สุดเพื่อสกัดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี
"ชลน่าน" มอง 46 ปี เหตุการณ์ 6 ตุลาเป็นบทเรียนล่ำค่า
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเนื่องในวันครบรอบ 6 ตุลาคม 2519 ว่า 46 ปีที่ผ่านมา ได้บทเรียนอันล้ำค่าทั้งบวกและลบ โดยด้านบวกมองว่าแม้จะเป็นความสูญเสียจากการเรียกร้องเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย
แต่การจัดงานรำลึกก็ทำให้เยาวชนคนรุ่นหลังได้ศึกษาและรำลึกถึงเหตุการณ์ ขณะเดียวกันข้อเท็จจริงหลายเรื่องก็ค่อยๆ เปิดเผยออกมาทำให้หลายคนสัมผัสและจับต้องได้ และทำให้ประชาชนรุ่นหลังรู้จักปรับวิธีการต่อสู้เพื่อให้ได้มาเพื่อประชาธิปไตยโดยต้องไม่เกิดการสูญเสียด้านลบ มีการเรียกร้องประชุมมาตลอดแต่ความเป็นประชาธิปไตยกลับถอยหลัง โดยเฉพาะจากกรณีการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกรัฐมนตรี
จึงเชื่อว่าการเลือกตั้งที่จะมาถึงประชาชนจำนวนมากจะออกมาใช้สิทธิเพื่อทวงคืนอำนาจประชาธิปไตยอย่างจริง
"พิธา" เตือนรัฐอย่าทำซ้ำเพราะจุดจบจะไม่เหมือนเดิม
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และ พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ร่วมเป็นตัวแทนพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า วางพวงมาลารำลึกครบรอบ 46 ปีเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 โดยบนพวงมาลามีข้อความที่สอดคล้องกันคือ "ดาวศรัทธายังส่องแสงเบื้องบน" สำหรับพวงมาลาของพรรคก้าวไกล และ "ปลุกหัวใจปลุกคนอยู่มิวาย" บนพวงมาลาของคณะก้าวหน้า
นายพิธา ระบุว่า เหตุการณ์ 6 ตุลา 19 คือบทเรียนว่าสังคมไทยจะต้องร่วมกันทบทวนเงื่อนไขในการปราบปรามของรัฐ การรัฐประหาร ไปจนถึงการเข่นฆ่าประชาชน ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
พรรคก้าวไกล มีข้อเสนอทางการเมืองเพื่อให้ประเทศไทยสามารถเกิดความสมานฉันท์ ให้ความคิดที่แตกต่างกันอยู่ร่วมกันได้ในสังคมไทยจริงๆ และเหตุการณ์อย่าง 6 ตุลา ไม่เกิดขึ้นอีก