รอยไหม้สีดำบริเวณไหล่ทางของสะพานในกรุงปักกิ่งเกิดจากการเผาป้ายประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ด้านตำรวจคอยตรวจสอบความเรียบร้อยหลังจากมีผู้ติดป้ายประท้วงบนสะพานทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง ซึ่งป้ายประท้วงมีใจความต่อต้านการตรวจโควิด-19 เรียกร้องเสรีภาพ ต่อต้านการปฏิวัติวัฒนธรรม เรียกร้องการปฏิรูป
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันหยุดงานและหยุดเรียนประท้วง กำจัดผู้นำเผด็จการและคนทรยศต่อชาติ โดยแอปพลิเคชัน Weibo เซ็นเซอร์การค้นหาคำว่า "สะพานสีตง" จุดเกิดเหตุประท้วงและจำกัดการค้นหาคำอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
การประท้วงเกิดขึ้นไม่กี่วัน ก่อนจะมีการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 20 นาน 1 สัปดาห์ตั้งแต่วันอาทิตย์นี้เป็นต้นไป ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจของประชาชน จากมาตรการโควิด-19 ที่เข้มงวดภายในกรุงปักกิ่งจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต
สำหรับการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจัดขึ้นเป็นประจำทุก ๆ 5 ปีและถือเป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของสมาชิกพรรค โดยข้อมูลจากสำนักข่าว Xinhua เมื่อเดือน ก.ย. ระบุว่า การประชุมในครั้งนี้มีสมาชิกพรรคเข้าร่วมทั้งหมด 2,296 คน โดยที่ประชุมพรรคจะประกาศรายชื่อสมาชิกกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ หรือ โปลิตบูโรชุดใหม่
โดยเฉพาะ "คณะกรรมการถาวร" หรือ "Standing Committee" ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้มีอำนาจสูงสุด ที่นำโดยเลขาธิการใหญ่ ทุกฝ่าย คาดว่า สี จิ้นผิงจะได้รับการเสนอชื่อให้นั่งเก้าอี้เลขาธิการใหญ่เป็นสมัยที่ 3 หลังจากนั่งเก้าอี้มาตั้งแต่ปี 2012
วาระสำคัญในการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 20 มีตั้งแต่การทบทวนผลงานตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ไปจนถึงการวิเคราะห์สภาพการณ์เพื่อเดินหน้าผลักดันนโยบายที่เหมาะสม ภายใต้เป้าหมายในการสร้างจีนให้เป็นประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่และส่งเสริมการฟื้นฟูชาติตามเป้าหมายของสี จิ้นผิง
ขณะที่มาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างเข้มงวด เริ่มส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวไม่สามารถควบคุมผู้ติดเชื้อได้อยู่หมัด หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งประชาชนในกรุงปักกิ่งต่างแสดงความคิดเห็นหลากหลายเกี่ยวกับการใช้มาตรการกดตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นศูนย์
ที่ปรึกษาสถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์วิเคราะห์แนวโน้มของการใช้มาตรการควบคุมโรคเข้มงวด โดยระบุว่า หากไม่ยกเลิกต้องผ่อนคลายลงบ้าง หลังสีจิ้นผิงให้เหตุผลการ Zero covid ไว้ว่า เขาให้ความสำคัญกับชีวิตคน ซึ่งนโยบายนี้ทำให้เกิดแรงกดดันทั้งในสังคมและภายในพรรคเอง
หลังการประชุมสมัชชาพรรค อาจต้องมีการผ่อนปรน Zero covid เพราะอาจจะก่อให้เกิดผลทางลบต่อความชอบธรรมหรือความน่าเชื่อถือของสีจิ้นผิงเสียเอง
ทั้งนี้ สถานการณ์ในประเทศและสถานการณ์โลกที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ทำให้ผู้นำจีนยังคงมีโจทย์ท้าทายอีกมากมายรออยู่ข้างหน้า