วันนี้ (17 ต.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียหายจากเหตุการณ์กลุ่มชายฉกรรจ์บุกปล้นทรัพย์ที่บ้านพักย่านพระราม 2 เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา เข้าร้องทุกข์แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม พร้อมนายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม
น.ส.ดาราวดี ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุทำทีติดต่อขอซื้อกัญชา เมื่อนัดหมายดูสินค้าซึ่งได้นัดหมายให้มาที่ห้องพัก ปรากฏว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ 6-7 คน บุกขึ้นห้องพักพร้อมอาวุธและข่มขู่ปล้นทรัพย์ พร้อมเอาปืนข่มขู่ลูกชายวัย 9 ขวบด้วย
หลังเกิดเหตุชุลมุน ตัวเองได้ตะโกนขอความช่วยเหลือจนเพื่อนบ้านออกมาดูสถานการณ์ค่อนข้างมาก กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงวิ่งหลบหนีไปและทิ้งรถยนต์เก๋งไว้ 1 คัน ซึ่งคันที่ถูกจอดทิ้งไว้พบว่าสวมทะเบียน เนื่องจากป้ายทะเบียนรถกับป้ายภาษีรถยนต์ (ป้ายวงกลม) ไม่ตรงกัน
ส่วนกระจกรถที่แตกร้าว ยอมรับว่าตัวเองทุบ เพราะโกรธที่กลุ่มผู้ก่อเหตุบุกเข้ามาปล้นอย่างอุกอาจ และยังใช้ปืนข่มขู่ลูกชาย ส่วนสามีถูกตีที่ศีรษะ ขณะนี้ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล
สำหรับมูลเหตุ น.ส.ดาราวดี คาดว่าอาจเกิดจากความขัดแย้งเมื่อ 2 เดือนก่อน รวมถึงเรื่องการจำหน่ายกัญชาในพื้นที่ฝั่งธนบุรี โดยเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเจตนาปล้นกัญชาและทรัพย์สินของสามี
ด้านนายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างแกะรอยกลุ่มผู้ก่อเหตุ
เบื้องต้นทราบข้อมูลแล้วและอยู่ระหว่างขอหมายจับกับศาล พร้อมระบุว่า เหตุการณ์นี้เป็นบทพิสูจน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธสงครามและก่อเหตุอุกอาจ
นอกจากนี้ สันนิษฐานว่าสาเหตุอาจมาจากความขัดแย้งเรื่องการขายกัญชาในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ทั้งการแย่งตลาดลูกค้า รวมถึงอาจมีความขัดแย้งเกี่ยวพันกันมาจากเหตุอุ้มรีดทรัพย์เมื่อ 2 เดือนก่อน
ส่วนการกระทำที่เข้าข่ายมีความผิด นายรณรงค์ ระบุว่า จากพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุและตามหลักฐานที่ปรากฏในวงจรปิด คาดว่าเข้าข่ายร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธ, ร่วมกันบุกรุก, ร่วมทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันข่มขู่ให้ตกใจกลัว และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ