วันนี้ (19 ต.ค.2565) รศ.ปิติ ศรีแสงนาม ผอ.ศูนย์เศรษฐกิจระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในรายการ Newsroom Daily รายการออนไลน์ของไทยพีบีเอสว่า จีนกำลังเข้าสู่ยุคที่ 3 ของ สี จิ้นผิง ซึ่งเป็นยุคที่มีความมั่งคั่งรุ่งเรืองร่วมกัน โดยตั้งเป้าหมายระยะกลางว่า ปี 2025 ประเทศจีน จะต้องเป็นประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยในระดับพื้นฐาน
คนจีนทุกคนจะต้องเข้าถึงบริการของภาครัฐได้อย่างเท่าเทียมกัน และในปี 2049 วาระครบรอบ 100 ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศจีนจะเป็นประเทศสังคมนิยมทันสมัยที่มีความยิ่งใหญ่
หลังจากนี้จีนจะไม่เน้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอีกต่อไป ไม่ใช้เศรษฐศาสตร์กระแสหลัก เพราะเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก ไม่สามารถตอบโจทย์ปัญหาเศรษฐกิจที่ใหญ่มากในขณะนี้ของจีนได้ ซึ่งต้องทำให้การกระจายรายได้เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ลดช่องว่างระหว่างเมืองกับชนบท ลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน
สี จิ้นผิง กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดประชุมฯ ว่า ไม่ได้จะทำให้ทุกคนรวยขึ้นทั้งหมด ไม่ได้จะทำให้ทุกคนจนเท่ากันทั้งหมด แต่จะทำให้การกระจายรายได้ของทุกคนดีขึ้น
รศ.ปิติ ระบุว่าอีกนโยบายที่จีนให้ความสำคัญอย่างมากในขณะนี้ คือ การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในรูปแบบ Deep Tech (Deep Technology) คือ เทคโนโลยีระดับสูงที่มีความซับซ้อนเชิงลึกทางเคมี ผ่านการค้นคว้าวิจัย และคิดค้นขึ้นมาใหม่จากนวัตกรรมเชิงวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ เพื่อป้องกันการพึ่งพาและป้องกันคอขวดของเทคโนโลยี
การพัฒนาดังกล่าวเป็นจุดแข็งของจีน ที่สหรัฐฯ ไล่ตามไม่ทัน ทั้งนี้เชื่อว่าสมาชิกกรมการเมืองที่จะประกาศชื่อในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จะมีนักวิทยาศาสตร์อยู่ในกรมการเมืองมากขึ้น
จีนเน้นพัฒนาพลังงานทางเลือก, เซมิคอนดักเตอร์, ควอนตัม, เอไอ และเทคโนโลยีโทรคมนาคม การพัฒนาสิ่งเหล่านี้ จะทำให้จีนลดการพึ่งพาการพัฒนาเทคโนโลยีของโลกตะวันตกได้เยอะ
สำหรับการรับมือของไทยต่อการพัฒนาประเทศของจีน รศ.ปิติ แนะนำว่าไทยควรมองจีนอย่างที่จีนเป็น อย่ามองแบบรักมากเกินไป และอย่ามองแบบติดลบเกินไป เพราะจีนเป็นมหาอำนาจที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด และเป็นตลาดใหญ่ใกล้บ้านมากที่สุด พยายามแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกันอย่างระมัดระวัง
จีนเหมือนกองไฟ ใกล้ไปก็แผดเผา ไกลไปก็หนาวเหน็บ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"อักษรศรี" มองทิศทางพัฒนาจีน 5 ปี ข้างหน้า เผด็จการ-แข็งกร้าว?
จับตาสมาชิก "คณะกรรมการถาวรกรมการเมือง" หลัง "สี จิ้นผิง" เป็นผู้นำสมัย 3