ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

พร้อมแค่ไหน? ถอดแมสก์ในที่สาธารณะ หลังพ้นระบาดใหญ่โควิด

สังคม
23 ต.ค. 65
19:26
2,747
Logo Thai PBS
พร้อมแค่ไหน? ถอดแมสก์ในที่สาธารณะ หลังพ้นระบาดใหญ่โควิด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เช็กความพร้อมตัวเอง? ก่อนตัดสินใจถอดหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ แพทย์แนะนำกลุ่มเสี่ยงยังจำเป็น ส่วน "อนุทิน" เริ่มถอดแมสก์ในที่สาธารณะแล้ว
ยังจำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยป้องกันตัวเองเป็นทั้งทางอ้อมและทางตรง เพราะถ้าไม่ใส่ลูกค้า ก็จะถามว่าทำไมถึงใส่ บอกไปว่าบางทีก็เหนื่อย แต่ลูกค้าบอกใส่ป้องกันฝุ่น ป้องกันโรคไปในตัว

หนึ่งในเสียงสะท้อนของประชาชนในกรุงเทพฯ ว่าการสวมหน้ากากอนามัยในช่วงนี้ ยังจำเป็นสำหรับพวกเขาหรือไม่ หลังพ้นช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ไปแล้ว

แม้ว่าการสวมหน้ากากอนามัย ไม่ได้บังคับเหมือนกับช่วงการระบาดปีแรก แต่เป็นคำแนะนำให้สวมเมื่ออยู่ในที่แออัด และให้ประชาชนประเมินความเสี่ยงด้วยตัวเอง และสำหรับบางคน การสวมหน้ากากอนามัยกลายเป็นความเคยชินไปแล้วเมื่อต้องออกจากบ้าน

 

แม่ค้าขายพวงมาลัยคนนี้ บอกว่า บางครั้งเธอถอดหน้ากากอนามัยออกในระยะเวลาสั้นๆ เพราะหายใจไม่สะดวก หรืออากาศร้อน แต่เมื่อลูกค้าเห็น ก็จะบอกให้เธอสวมหน้ากาก อาชีพที่ต้องพบปะคนจำนวนมาก จึงทำให้เธอต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา

ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติยกเลิกโทษปรับ กรณีไม่สวมหน้ากากอนามัย เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉินถูกยกเลิกแล้ว แต่มีคำแนะนำให้สวม
หน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการป่วย หรืออยู่ในที่แออัด มีคนจำนวนมาก

"อนุทิน" ถอดหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ 

และคนที่ยืนยันความมั่นใจว่าโควิด19 ว่าคลี่คลายลงแล้ว คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ถอดหน้ากากอนามัยไปปรากฏตัวตามที่สาธารณะ เห็นใบหน้าเต็มๆ แบบนี้หลายวันแล้ว นายอนุทิน ให้ประชาชนพิจารณาตามความเสี่ยงของตัวเอง และการใส่หน้ากากอนามัยช่วยได้

คำถามคือ โควิด-19 ขาลง แต่ถ้าคนส่วนใหญ่จะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม ลืมคำว่า New Normal ไปเลยได้หรือไม่ แพทย์ประเมินว่าอาจจะเร็วเกินไป อย่าลืมว่ายังมีโรคอื่นๆที่ต้องระวังอยู่

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล  ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า มีการคาดการณ์ว่าหลังจากผ่านโควิด-19 อาจจะเจอตัวอื่นๆ วงรอบอาจจะเร็วขึ้นเดิมอาจจะวงรอบ 5-10 ปี หลังจากนี้ต้องระมัดระวังและคนที่ป่วย และคงเห็นคนใส่หน้ากากอนามัยมากขึ้นในสังคมไทย

 

ปลายปีนี้ ยังต้องเฝ้าระวังกันอีกระยะ ทั้งการระบาดเพิ่มของเชื้อสายพันธุ์ย่อย ที่เป็นตัวแปร จะส่งผลถึงยอดผู้ป่วยติดเชื้อเข้าโรงพยาบาล เสียชีวิต รวมทั้งการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนเพิ่มขึ้นหรือไม่

ดังนั้นคงไม่ได้ความหมายว่า ตกลงแล้วหน้ากากจะปลดหรือใส่ต่อ แต่ยังต้องมองยาวถึงระบบรองรับทางสาธารณสุข ยา และการสร้างภูมิคุ้มกัน ที่ต้องพร้อมรองรับการระบาดที่อาจปะทุได้ทุกเมื่อด้วย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง